เมนู

[910] รูปิธรรม เป็นไฉน ?
มหาภูตรูป 4 และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป 4 นั้น สภาวธรรมเหล่านี้
ชื่อว่า รูปิธรรม.
อรูปิธรรม เป็นไฉน ?
กุศลในภูมิ 4 อกุศล วิบากในภูมิ 4 กิริยาอัพยากฤตในภูมิ 3 และ
นิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า อรูปิธรรม.
[911] โลกิยธรรม เป็นไฉน ?
กุศลในภูมิ 3 อกุศล วิบากในภูมิ 3 กิริยาอัพยากฤตในภูมิ 3 และ
รูปทั้งหมด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า โลกิยธรรม.
โลกุตรธรรม เป็นไฉน ?
มรรค 4 ที่เป็นโลกุตระ สามัญผล 4 และนิพพาน สภาวธรรม
เหล่านี้ ชื่อว่า โลกุตรธรรม.
[912] ธรรมทั้งหมดแล จัดเป็นเกนจิวิญเญยยธรรม เกนจิน-
วิญเญยยธรรม.
จูฬันตรทุกะ จบ

อาสวโคจฉกะ


[913] อาสวธรรม เป็นไฉน ?
อาสวะ 4 คือ กามาสวะ ภวาสวะ ทิฏฐาสวะ อวิชชาสวะ
กามาสวะ บังเกิดในจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโลภะ 8 ดวง
ภวาสวะ บังเกิดในจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโลภะ วิปปยุตจากทิฏฐิ 4
ดวง

ทิฏฐาสวะ บังเกิดในจิตตุปบาทที่สัมปยุตด้วยทิฏฐิ 4 ดวง
อวิชชาสวะ บังเกิดในอกุศลทั้งปวง
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า อาสวธรรม.
ธรรมไม่เป็นอาสวะ เป็นไฉน ?
กุศลที่เหลือเว้นอาสวธรรมเสีย กุศลในภูมิ 4 วิบากในภูมิ 4 กิริยา
อัพยากฤตในภูมิ 3 รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมไม่เป็น
อาสวะ.
[914] ธรรมเป็นอารมณ์ของอาสวะ เป็นไฉน ?
กุศลในภูมิ 3 อกุศล วิบากในภูมิ 3 กิริยาอัพยากฤตในภูมิ 3 และ
รูปทั้งหมด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นอารมณ์ของอาสวะ.
ธรรมไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ เป็นไฉน ?
มรรค 4 ที่เป็นโลกุตระ สามัญผล 4 และนิพพาน สภาวธรรมเหล่า
นี้ ชื่อว่า ธรรมไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ.
[915] ธรรมสัมปยุตด้วยอาสวะ เป็นไฉน ?
จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโทมนัส 2 ดวง อกุศลที่เหลือ เว้นโมหะที่เกิด
ในจิตตุปบาท 2 ดวงนี้ เว้นโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา (และ) เว้นโมหะที่
สหรคตด้วยอุทธัจจะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมสัมปยุตด้วยอาสวะ.
ธรรมวิปปยุตจากอาสวะ เป็นไฉน ?
โมหะ ที่เกิดขึ้นในจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโทมนัส 2 ดวง โมหะที่
สหรคตด้วยวิจิกิจฉา โมหะที่สหรคตอุทธัจจะ กุศลในภูมิ 4 วิบากในภูมิ 4
กิริยาอัพยากฤตในภูมิ 3 รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรม
วิปปยุตจากอาสวะ.

[916] ธรรมเป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะ เป็นไฉน ?
อาสวะเหล่านั้นแล ชื่อว่าธรรมเป็นอาสวะและเป็นอารมณ์ของอาสวะ.
ธรรมเป็นอารมณ์ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ เป็นไฉน ?
อกุศลที่เหลือเว้นอาสวะเสีย กุศลในภูมิ 3 วิบากในภูมิ 3 กิริยา-
อัพยากฤตในภูมิ 3 และรูปทั้งหมด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นอารมณ์
ของอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ.
ธรรมไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ จะกล่าวว่า เป็นอาสวะและเป็นอารมณ์
ของอาสวะก็ไม่ได้ ว่าเป็นอารมณ์ของอาสวะ แต่ไม่เป็นอาสวะก็ไม่ได้.
[917] ธรรมเป็นอาสวะและสัมปยุตด้วยอาสวะ เป็นไฉน ?
อาสวะ 2-3 อย่างบังเกิดร่วมกันในจิตตุปบาทใด สภาวธรรมเหล่านี้
ชื่อว่า ธรรมเป็นอาสวะและสัมปยุตด้วยอาสวะ.
ธรรมสัมปยุตด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ เป็นไฉน ?
อกุศลที่เหลือ เว้นอาสวะทั้งหลายเสีย สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรม
สัมปยุตด้วยอาสวะแต่ไม่เป็นอาสวะ.
ธรรมวิปปยุตจากอาสวะ จะกล่าวว่า เป็นอาสวะและสัมปยุตด้วยอาสวะ
ก็ไม่ได้ ว่าสัมปยุตด้วยอาสวะ แต่ไม่เป็นอาสวะก็ไม่ได้.
[918] ธรรมวิปปยุตจากอาสวะ แต่เป็นอารมณ์ของอาสวะ
เป็นไฉน ?
โมหะที่บังเกิดในจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโทมนัสเวทนา 2 ดวง
โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา โมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ กุศลในภูมิ 3 วิบาก
ในภูมิ 3 กิริยาอัพยากฤตในภูมิ 3 และรูปทั้งหมด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า
ธรรมวิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะ.

ธรรมวิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ เป็น
ไฉน ?
มรรค 4 ที่เป็นโลกุตระ สามัญผล 4 และนิพพาน สภาวธรรมเหล่า
นี้ ชื่อว่า ธรรมวิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ.
ธรรมสัมปยุตด้วยอาสวะ จะกล่าวว่า ธรรมวิปปยุตจากอาสวะแต่เป็น
อารมณ์ของอาสวะก็ไม่ได้ ว่าธรรมวิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของ
อาสวะก็ไม่ได้.
อาสวโคจฉกะ จบ

สัญโญชนโคจฉกะ


[919] สัญโญชนธรรม เป็นไฉน ?
สัญโญชน์ 10 คือ กามราคสัญโญชน์ ปฏิฆสัญโญชน์ มานสัญโญชน์
ทิฏฐิสัญโญชน์ วิจิกิจฉาสัญโญชน์ สีลัพพตปรามาสสัญโญชน์ ภวราคสัญโญชน์
อิสสาสัญโญชน์ มัจฉริยสัญโญชน์ อวิชชาสัญโญชน์
กามราคสัญโญชน์ บังเกิดในจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโลภะ 8 ดวง
ปฏิฆสัญโญชน์ บังเกิดในจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโสมนัสเวทนา 2
ดวง
มานสัญโญชน์ บังเกิดในจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโลภะ วิปปยุตจาก
ทิฏฐิ
ทิฏฐิสัญโญชน์ บังเกิดในจิตตุปบาทที่สัมปยุตด้วยทิฏฐิ 2 ดวง
วิจิกิจฉาสัญโญชน์ บังเกิดในจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
สีลัพพตปรามาสสัญโญชน์ บังเกิดในจิตตุปบาทที่สัมปยุตด้วยทิฏฐิ
4 ดวง