เมนู

ว่าด้วยนิทเทสขันติทุกะ


พึงทราบวินิจฉัยในนิทเทสขันติทุกะ ต่อไป
ที่ชื่อว่า ขันติ ด้วยอำนาจการอดทน อาการแห่งความอดทน ชื่อว่า
ขมนตา (กิริยาที่อดทน). ที่ชื่อว่า อธิวาสนตา (ความอดกลั้น) เพราะ
อรรถว่า เป็นเหตุอดกลั้น คือเป็นเหตุยกขึ้นเหนือตนทนอยู่ ไม่ต่อต้าน
ไม่เป็นข้าศึกดำรงอยู่.
ภาวะแห่งความไม่ดุร้าย ชื่อว่า อจณฺฑิกฺกํ (ความไม่ดุร้าย) คำพูด
ที่เปล่งออกมาชั่ว เพราะยกขึ้นพูดหาความชอบมิได้ ในบทว่า อนสุโรโป
(ความไม่ปากร้ายนี้) ท่านเรียกว่า ความปากร้าย. ชื่อว่า อนสุโรโป (ความ
ไม่ปากร้าย) เพราะมีสภาพตรงกันข้ามกับปากร้ายนั้น ได้แก่ วาจาที่เปล่ง
ออกมาดี. ในอธิการนี้ ทรงแสดงถึงเหตุ โดยผลูปจารนัยอย่างนี้.
บทว่า อตฺตมนตา จิตฺตสฺส (ความแช่มชื่นแห่งจิต) ได้แก่
ความที่จิตเป็นใจของตนด้วยอำนาจโสมนัส อธิบายว่า ภาวะแห่งจิตเป็นของตน
นั่นแหละ คือ การที่จิตไม่พยาบาทแล้ว.

ว่าด้วยนิทเทสโสรัจจทุกะ


พึงทราบวินิจฉัยในนิทเทสโสรัจจทุกะ ต่อไป
บทว่า กายิโก อวีติกฺกโม (ความไม่ล่วงละเมิดทางกาย) ได้แก่
กายสุจริต 3 อย่าง. บทว่า วาจสิโก อวีติกฺกโม (ความไม่ล่วงละเมิดทาง
วาจา) ได้แก่ วจีสุจริต 4 อย่าง. ด้วยบทว่า กายิกวาจสิโก (ทางกาย
และทางวาจา) นี้ ทรงกำหนดถืออาชีวัฏฐมกศีล (ศีลมีอาชีวะเป็นที่ 8) ซึ่ง
ตั้งขึ้นทางกายและทางวาจา. บทว่า อิทํ วุจฺจติ โสรจฺจํ (นี้เรียกว่าโสรัจจะ)
นี้ ตรัสชื่อโสรัจจะไว้ เพราะความงดเว้นด้วยดีจากบาป. บทว่า สพฺโพปิ