เมนู

ธรรมเหล่านั้นอันเป็นธรรมนับเนื่องในภูมินี้โดยความเป็นราสี (กอง) โดย
ความว่างเปล่า โดยความเป็นปัจจัย และเป็นสภาวะ จึงตรัสคำว่า ขันธ์
เป็นต้น.

ว่าด้วยนิทเทสแห่งรูปาวจรธรรม


พึงทราบวินิจฉัยในนิทเทสรูปาวจรธรรม ต่อไป.
บทว่า พฺรหฺมโลกํ (พรหมโลก) ได้แก่ สถานที่ดำรงอยู่แห่ง
พรหมกล่าวคือ ปฐมฌานภูมิ. คำที่เหลือในนิทเทสนี้ พึงทราบโดยนัยที่กล่าว
ไว้ในนิทเทสกามวจรนั่นแหละ. ในบทมีอาทิว่า สมาปนฺนสฺส จ (ของผู้
เข้าสมาบัติ) พึงทราบว่า ตรัสกุศลฌานด้วยบทที่ 1 ตรัสวิบากฌานด้วย
บทที่ 2 ตรัสกิริยาฌานด้วยบทที่ 3 ดังนี้.
พึงทราบวินิจฉัยในนิทเทสอรูปาจรธรรม ต่อไป
บทว่า อากาสานญฺจายตนูปเค (ผู้เข้าถึงอากาสานัญจายตนภูมิ)
ได้แก่ ผู้เข้าถึงภพกล่าวคือ อากาสานัญจายตนะ. แม้ในบทที่ 2 ก็นัยนี้แหละ.
คำที่เหลือในนิทเทสนี้ พึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในหนหลังนั่นแหละ.

ว่าด้วยนิทเทสสรณทุกะ (ที่ 18)


พึงทราบวินิจฉัยในนิทเทสสรณทุกกะ ต่อไป
บรรดาอกุศลมูล 3 อกุศลมูล คือโมหะนี้ใด โมหะนั้นสัมปยุตด้วย
โลภะ พึงทราบว่า เป็นสรณะ (เกิดพร้อมกับกิเลสเป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้)
โดยโลภะ โมหะที่สัมปยุตด้วยโทสะ เป็นสรณะโดยโทสะ แต่โมหะที่สัมปยุต
ด้วยวิจิกิจฉาและอุทธัจจะ เป็นสรณะโดยเป็นกิเลสที่ตั้งอยู่ในฐานเดียวกันกับ
การประหาณโดยกิเลสเป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้คือราคะอันสัมปยุตด้วยทิฏฐิ และ
กิเลสคือรูปราคะอรูปราคะ ดังนี้.

สุตตันติกทุกะ


[836] ธรรมเป็นไปในส่วนวิชชา เป็นไฉน ?
ธรรมทั้งหลายที่สัมปุยุตด้วยวิชชา สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรม
เป็นไปในส่วนวิชชา.
ธรรมเป็นไปในส่วนอวิชชา เป็นไฉน ?
ธรรมทั้งหลายที่สัมปยุตด้วยอวิชชา สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรม
เป็นไปในส่วนอวิชชา.
[837] วิชชูปมธรรม เป็นไฉน ?
ปัญญาในอริยมรรค 3 เบื้องต่ำ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า วิชชูปมธรรม.
วชิรูปมธรรม เป็นไฉน ?
ปัญญาในอรหัตมรรคเบื้องสูง สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า วชิรูปมธรรม.
[838] พาลธรรม เป็นไฉน ?
อหิริกะ อโนตตัปปะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า พาลธรรม.
บัณฑิตธรรม เป็นไฉน ?
หิริ โอตตัปปะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า บัณฑิตธรรม
กุศลธรรมแม้ทั้งหมดจัดเป็น บัณฑิตธรรม.
[839] กัณหธรรม เป็นไฉน ?
อหิริกะ อโนตตัปปะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า กัณหธรรม
อกุศลธรรมแม้ทั้งหมดจัดเป็น กัณหธรรม.
สุกกธรรม เป็นไฉน ?