เมนู

แต่ในนิทเทสมานะข้อที่หนึ่งในขุททกวัตถุวิภังค์ ตรัสว่า มานะหนึ่ง
ย่อมเกิดแก่ชนทั้ง 3. ที่ชื่อว่า มานะ (ความถือตัว) ด้วยอำนาจการทำความ
ถือตัว.
บทว่า มญฺญนา มญฺญิตตฺตํ (กิริยาที่ถือตัว ความถือตัว) นี้เป็น
การชี้แจงถึงอาการและภาวะ ที่ชื่อว่า อุณฺณติ การยกตน) โดยความหมายว่า
เทิดทูน. ที่ชื่อว่า อุณฺณาโม (การเชิดชูตน) เพราะอรรถว่า นานะย่อมยัง
บุคคลผู้เกิดมานะให้พอง คือยกให้ตั้งขึ้น ที่ชื่อว่าธโช (ดุจธง) โดยความ
หมายว่าเชิดชูขึ้นแล้ว. ที่ชื่อว่า สมฺปคฺคาโห (การยกจิตขึ้น) เพราะอรรถว่า
ย่อมประคับประคองจิตโดยความหมายว่า การยกขึ้น. บรรดาธงทั้งหลายมาก
ธงที่ยกขึ้นสูง ตรัสเรียกว่า เกตุ (ธง) เพราะว่ามานะเมื่อเกิดบ่อย ๆ เพราะ
อาศัยมานะต่อ ๆ มาก็เป็นเหมือนธง เพราะอรรถว่ายกขึ้นไว้สูง เพราะฉะนั้น
จึงเรียกว่า เหมือนธง. จิตใดย่อมต้องการมานะเหมือนธง เพราะฉะนั้น จิต
นั้นจึงชื่อว่า เกตุกมฺยํ (ปรารถนาดุจธง) ภาวะแห่งเกตุกัมยะนั้น ชื่อว่า
เกตุกมฺยตา (ความที่จิตต้องการดุจธง) ก็ความที่จิตต้องการดุจธงนั้นเป็น
ของจิต มิใช่เป็นของอัตตา ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า เกตุกมฺยตา จิตฺตสฺส
(ความที่จิตต้องการดุจธง) อธิบายว่า จิตสัมปยุตด้วยมานะย่อมปรารถนาดุจธง
และภาวะแห่งจิตนั้น ชื่อว่า เกตุกมฺยตา คือ มานะที่นับว่าเป็นดุจธง.

ว่าด้วยอิสสานิทเทส


พึงทราบวินิจฉัยในอิสสานิทเทส ต่อไป
คำว่า ยา ปรลาภสกฺการ ครุการ มานน วนฺทนปูชนาทีสุ อิสฺสา
(การริษยาในลาภสักการะ ในการทำความเคารพ ในการนับถือ ในการไหว้