เมนู

ว่าด้วยปกิณณกกถา


ก็เพื่อความไม่หลงลืมในรูปเหล่านี้ บัณฑิตพึงทราบปกิณกะนี้ คือ
สโมธาน คือ การประมวลมา
สมุฏฐาน คือ เหตุให้เกิดขึ้น
ปรินิปผันนะ คือ รูป.
บรรดาปกิณกะเหล่านั้น ข้อว่า สโมธาน ความว่า รูปทั้งหมดที่เดียว
ว่าโดยสโมธานคือการประมวลมา นับได้ 25 รูป คือ จักขายตนะ โสตายตนะ
ฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะ รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ
รสายตนะ อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ กายวิญญัตติ วจีวิญญัตติ
อากาศธาตุ รูปลหุตา รูปมุทุตา รูปกัมมัญญตา รูปอุปจยะ รูปสันตติ
รูปชรา รูปอนิจจตา กพฬิงการาหาร โผฏฐัพพายตนะ อาโปธาตุ รวมกับ
รูปคือหทยวัตถุ พึงทราบว่ามี 26 ชื่อว่า รูปอื่นจากนี้มิได้มี. แต่อาจารย์
บางพวกผู้มีวาทะว่ามิทธะเป็นรูปจึงกล่าวว่า ชื่อว่า มิทธรูปมีอยู่ อาจารย์
เหล่านั้นพึงถูกสกวาทยาจารย์กล่าวว่า ท่านจะเป็นมุนีสัมพุทธะแน่นอน นิวรณ์
ของท่านไม่มีดังนี้เป็นต้น พึงปฏิเสธว่า รูปที่ชื่อว่า มิทธรูปไม่มี. อาจารย์อีก
พวกหนึ่งกล่าวว่า รูป 26 เหล่านั้นกับพลรูปก็เป็นรูป 27 รวมกับสัมภวรูป
ก็เป็นรูป 28 รวมกับชาติรูปก็เป็น 29 รวมกับโรครูป ก็เป็น 30 รูป แม้
อาจารย์นั้นก็พึงถูกให้แสดงความไม่มีแห่งรูปเหล่านั้นไว้แผนกหนึ่ง แล้วปฏิเสธ.
จริงอยู่ พระองค์ทรงถือเอาพลรูปนั่นแหละด้วยวาโยธาตุที่ทรงถือเอา
แล้วชื่อว่า พลรูปอื่นย่อมไม่มี. ทรงถือเอาสัมภวรูปด้วยอาโปธาตุ ทรงถือ
เอาชาติรูปด้วยอุปจยะและสันตติ ทรงถือโรครูปด้วยชรตารูปและอนิจจตารูป
ขึ้นชื่อว่าโรครูปอื่นย่อมไม่มี แม้อาพาธมีโรคหูเป็นต้นใด อาพาธนั้นก็เป็นเพียง

ธาตุตั้งขึ้นด้วยปัจจัยอันไม่สมกันเท่านั้น ชื่อว่า โรครูปอื่นจากนั้นหามีอยู่ไม่
เพราะฉะนั้น เมื่อว่าโดยประมวลมารวมกันแล้วก็มีรูปเพียง 26 เท่านั้น.

ว่าโดยสมุฏฐานของรูป


ข้อว่า สมุฏฐาน ความว่า รูปเท่าไร มีสมุฏฐานเท่าไร ? รูป-
สิบ มีสมุฏฐาน 1 รูปหนึ่งมีสมุฏฐาน 2 รูปสามมีสมุฏฐาน 3
รูปเก้า
มีสมุฏฐาน 4 รูปสองไม่ตั้งขึ้นแต่สมุฏฐานอะไรเลย บรรดารูปเหล่านั้น
รูปสิบ ชื่อว่า มีสมุฏฐาน 1 คือ รูป 8 เหล่านี้ คือ จักขุประสาท ฯลฯ
ชีวิตินทรีย์ ตั้งขึ้นแต่กรรมอย่างเดียว รูป 2 คือ กายวิญญัตติ และวจีวิญญัตติ
ตั้งขึ้นแต่จิตอย่างเดียว รูปหนึ่งชื่อว่า มีสมุฏฐาน 2 คือ สัททรูปตั้งขึ้น
แต่อุตุและจิต. ในสัททรูปนั้น เสียงอันเกิดแต่สิ่งไม่มีวิญญาณตั้งขึ้นแต่อุตุ เสียง
อันเกิดแต่สิ่งที่มีวิญญาณตั้งขึ้นแต่จิต. ส่วนวิการรูป 3 มีลหุตาเป็นต้น ชื่อว่า
มีสมุฏฐาน 3 คือ ย่อมตั้งขึ้นแต่อุตุ จิต และอาหาร. รูป 9 ที่เหลือ
ย่อมตั้งขึ้นแต่สมุฏฐาน 4 คือ แต่อุตุ จิต อาหาร และกรรม ฉะนั้นจึงชื่อว่า
รูป 9 มีสมุฏฐาน 4.
ส่วนชรตารูปและอนิจจตารูป ย่อมไม่ตั้งขึ้นแต่สมุฏฐาน 4 เหล่า-
นั้น แม้สมุฏฐานเดียว เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า รูป 2 ไม่ตั้งขึ้นแต่สมุฏฐาน
อะไรเลย.
ถามว่า เพราะเหตุไร ?
ตอบว่า เพราะรูปทั้ง 2 นี้ ไม่เกิด.
ถามว่า เพราะเหตุไร รูปทั้ง 2 นี้ จึงไม่เกิด.
ตอบว่า เพราะรูปที่เกิดแล้วก็ต้องแก่และแตกดับ.