เมนู

ทุกนิเทศ


[539] รูปเป็นโนอุปาทา นั้น เป็นไฉน ?
คือโผฏฐัพพายตนะ อาโปธาตุ
[540] รูปที่เรียกว่า โผฏฐัพพายตนะ นั้น เป็นไฉน ?
ปฐวีธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ ที่แข็ง อ่อน ละเอียด หยาบ มี
สัมผัสสบาย มีสัมผัสไม่สบาย หนัก เบา, สัตว์นี้ ถูกต้องแล้ว หรือถูกต้อง
อยู่ หรือจักถูกต้อง หรือพึงถูกต้อง ซึ่งโผฏฐัพพะใด อันเป็นสิ่งที่เห็นไม่ได้
แต่กระทบได้ด้วยกายอันเป็นสิ่งที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้, นี้เรียกว่า โผฏ-
ฐัพพะบ้าง โผฏฐัพพายตนะบ้าง โผฏฐัพพธาตุบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า โผฏฐัพ-
พายตนะ.
รูปที่เรียกว่า โผฏฐัพพายตนะ นั้น เป็นไฉน ?
ปฐวีธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ ที่แข็ง อ่อน ละเอียด หยาบ มี
สัมผัสสบาย มีสัมผัสไม่สบาย หนัก เบา, กายอันเป็นสิ่งที่เห็นไม่ได้ แต่
กระทบได้ กระทบแล้ว หรือกระทบอยู่ หรือจักกระทบ หรือพึงกระทบ ที่
โผฏฐัพพะใด อันเป็นสิ่งที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้, นี้เรียกว่า โผฏฐัพพะบ้าง
โผฏฐัพพายตนะบ้าง โผฏฐัพพธาตุบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า โผฏฐัพพายตนะ.
รูปที่เรียกว่า โผฏฐัพพายตนะ นั้น เป็นไฉน ?
ปฐวีธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ ที่แข็ง อ่อน ละเอียด หยาบ มี
สัมผัสสบาย มีสัมผัสไม่สบาย หนัก เบา, โผฏฐัพพะใด เป็นสิ่งที่เห็นไม่
ได้แต่กระทบได้ กระทบแล้ว หรือกระทบอยู่ หรือจักกระทบ หรือพึงกระทบ

ที่กาย อันเป็นสิ่งที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ นี้เรียกว่า โผฏฐัพพะบ้าง โผฏ-
ฐัพพายตนะบ้าง โผฏฐัพพธาตุบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า โผฏฐัพพายตนะ.
รูปที่เรียกว่า โผฏฐัพพายตนะ นั้น เป็นไฉน ?
ปฐวีธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ ที่แข็ง อ่อน ละเอียด หยาบ มี
สัมผัสสบาย มีสัมผัสไม่สบาย หนัก เบา, เพราะปรารภโผฏฐัพพะใด กาย
สัมผัสอาศัยกายเกิดขึ้นแล้ว หรือเกิดขึ้นอยู่ หรือจักเกิดขึ้น หรือพึงเกิดขึ้น
ฯลฯ เพราะปรารภโผฏฐัพพะใด เวทนาอันเกิดแต่กายสัมผัส ฯลฯ สัญญา
ฯลฯ เจตนา ฯลฯ กายวิญญาณ อาศัยกายเกิดขึ้นแล้ว หรือเกิดขึ้นอยู่ หรือ
จักเกิดขึ้น หรือพึงเกิดขึ้น ฯลฯ กายสัมผัสมีโผฏฐัพพะใดเป็นอารมณ์ อาศัย
กายเกิดขึ้นแล้ว หรือเกิดขึ้นอยู่ หรือจักเกิดขึ้น หรือพึงเกิดขึ้น ฯลฯ เวทนา
อันเกิดแต่กายสัมผัส ฯลฯ สัญญา ฯลฯ เจตนา ฯลฯ กายวิญญาณ มีโผฏ-
ฐัพพะใด เป็นอารมณ์อาศัยกายเกิดขึ้นแล้ว หรือเกิดขึ้นอยู่ หรือจักเกิดขึ้น
หรือพึงเกิดขึ้น, นี้เรียกว่า โผฏฐัพพะบ้าง โผฏฐัพพายตนะบ้าง โผฏฐัพพธาตุ
บ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า โผฏฐัพพายตนะ.
[541] รูปที่เรียกว่า อาโปธาตุ นั้น เป็นไฉน ?
ความเอิบอาบ ธรรมชาติที่เอิบอาบ ความเหนียว ธรรมชาติที่เหนียว
ธรรมชาติเครื่องเกาะกุมรูป อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า อาโปธาตุ.
รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็น โน อุปาทา.
[542] รูปเป็นอนุปาทินนะ นั้น เป็นไฉน. ?
จักขายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะ
อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ หรือรูปแม้อื่นใด มีอยู่ ได้แก่ รูปายตนะ
คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาศธาตุ อาโปธาตุ รูปอุปจยะ
รูปสันตติ กพฬิงการาหาร ที่กรรมแต่งขึ้น รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอุปาทินนะ.

รูปเป็นอนุปาทินนะ นั้น เป็นไฉน ?
สัททายตนะ กายวิญญัตติ วจีวิญญัตติ รูปลหุตา รูปมุทุตา รูปกัมมัญญ-
ตา รูปชรตา รูปอนิจจตา หรือรูปแม้อื่นใด มีอยู่ ได้แก่ รูปายตนะ คันธายตนะ
รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาศธาตุ อาโปธาตุ รูปอุปจยะ รูปสันตติ
กพฬิงการาหาร ที่กรรมมิได้แต่งขึ้น รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอนุปาทินนะ.
[543] รูปเป็นอุปาทินนุปาทานิยะ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์
หรือรูปแม้อื่นใด มีอยู่ ได้แก่ รูปายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพ-
พายตนะ อากาศธาตุ อาโปธาตุ รูปอุปจยะ รูปสันตติ กพฬิงการาหาร ที่
กรรมแต่งขึ้น รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอุปาทินนุปาทานิยะ.
รูปเป็นอนุปาทินนุปาทานิยะ นั้น เป็นไฉน ?
สัททายตนะ กายวิญญัตติ วจีวิญญัตติ รูปลหุตา รูปมุทุตา รูปกัมมัญญ-
ตา รูปชรตา รูปอนิจจตา หรือรูปแม้อื่นใด มีอยู่ ได้แก่ รูปายตนะ สัททายตนะ
คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาศธาตุ อาโปธาตุ รูปอุปจยะ
รูปสันตติ กพฬิงการาหาร ที่กรรมมิได้แต่งขึ้น รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็น
อนุปาทินนุปาทานิยะ.
[544] รูปเป็นสนิทัสสนะ นั้น เป็นไฉน ?
รูปายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นสนิทัสสนะ.
รูปเป็นอันทัสสนะ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอนิทัสสนะ.
[545] รูปเป็นสัปปฏิฆะ นั้น เป็นไฉน ?

จักขายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะ
รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้
เรียกว่า รูปเป็นสัปปฏิฆะ.
รูปเป็นอัปปฏิฆะ นั้น เป็นไฉน ?
อิตถินทรีย์ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอัปปฏิฆะ.
[546] รูปเป็นอินทรีย์ นั้น เป็นไฉน ?
จักขุนทรีย์ โสตินทรีย์ ฆานินทรีย์ ชิวหินทรีย์ กายินทรีย์ อิตถินทรีย์
ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอินทรีย์.
รูปที่ไม่เป็นอินทรีย์ นั้น เป็นไฉน ?
รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นอินทรีย์.
[547] รูปเป็นมหาภูต นั้น เป็นไฉน ?
โผฏฐัพพายตนะ อาโปธาตุ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นมหาภูต.
รูปไม่เป็นมหาภูต นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นมหาภูต.
[548] รูปเป็นวิญญัตติ นั้น เป็นไฉน ?
กายวิญญัตติ วจีวิญญัตติ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นวิญญัตติ.
รูปไม่เป็นวิญญัตติ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นวิญญัตติ.
[549] รูปเป็นจิตตสมุฏฐาน นั้น เป็นไฉน ?
กายวิญญัตติ วจีวิญญัตติ หรือรูปแม้อื่นใดมีอยู่ ที่เกิดแต่จิต มีจิต
เป็นเหตุ มีจิตเป็นสมุฏฐาน ได้แก่รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ
รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาศธาตุ อาโปธาตุ รุปลหุตา รูปมุทุตา

รูปกัมมัญญตา รูปอุปจยะ รูปสันตติ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูป
เป็นจิตตสมุฏฐาน.
รูปไม่เป็นจิตตสมุฏฐาน นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์
รูปชรา รูปอนิจจตา หรือรูปแม้อื่นใด มีอยู่ ที่ไม่เกิดแต่จิต ไม่มีจิตเป็นเหตุ
ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐาน ได้แก่รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ
โผฏฐัพพายตนะ อากาศธาตุ อาโปธาตุ รูปลหุตา รูปมุทุตา รูปกัมมัญญตา
รูปอุปจยะ รูปสันตติ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นจิตตสมุฏฐาน.
[550] รูปเป็นจิตตสหภู นั้น เป็นไฉน ?
กายวิญญัตติ วจีวิญญัตติ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นจิตตสหภู.
รูปไม่เป็นจิตตสหภู นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นจิตตสหภู.
[551] รูปเป็นจิตตานุปริวัติ นั้น เป็นไฉน ?
กายวิญญัตติ วจีวิญญัตติ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นจิตตานุปริวัติ.
รูปไม่เป็นจิตตานุปริวัติ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
จิตตานุปริวัติ.
[552] รูปเป็นภายใน นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นภายใน.
รูปเป็นภายนอก นั้น เป็นไฉน ?
รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นภายนอก.
[553] รูปหยาบ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ โผฆฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปหยาบ.

รูปละเอียด นั้น เป็นไฉน ?
อิตถินทรีย์ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปละเอียด.
[554] รูปไกล นั้น เป็นไฉน ?
อิตถินทรีย์ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไกล.
รูปใกล้ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปใกล้.
[555] รูปเป็นที่อาศัยเกิดของจักษุสัมผัส นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นที่อาศัยเกิดของจักขุสัมผัส.
รูปไม่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุสัมผัส นั้น เป็นไฉน ?
โสตายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นที่
อาศัยเกิดของจักขุสัมผัส.
[556] รูปเป็นที่อาศัยเกิดของเวทนา อันเกิดแต่จักขุสัมผัส
ฯลฯ ของสัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของจักขุวิญญาณ
นั้น
เป็นไฉน ?
จักขายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นที่อาศัยเกิดของจักษุวิญญาณ.
รูปไม่เป็นที่อาศัยเกิดของจักขุวิญญาณ นั้น เป็นไฉน ?
โสตายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นที่อาศัย
เกิดของจักขุวิญญาณ.
[557] รูปเป็นที่อาศัยเกิดของโสตสัมผัส ฯลฯ ของฆาน-
สัมผัส ฯลฯ ของชิวหาสัมผัส ฯลฯ ของกายสัมผัส
นั้น เป็นไฉน ?
กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นที่อาศัยเกิดของกายสัมผัส.
รูปไม่เป็นที่อาศัยเกิดของกายสัมผัส นั้น เป็นไฉน ?

จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นที่อาศัย
เกิดของกายสัมผัส.
[558] รูปเป็นที่อาศัยเกิดของเวทนา อันเกิดแต่กายสัมผัส
ฯลฯ ของสัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของกายวิญญาณ
นั้น
เป็นไฉน ?
กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นที่อาศัยเกิดของกายวิญญาณ.
รูปไม่เป็นที่อาศัยเกิดของกายวิญญาณ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นที่อาศัย
เกิดของกายวิญญาณ.
[559] รูปเป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัส นั้น เป็นไฉน ?
รูปายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัส.
รูปไม่เป็นอารมณ์ของจักขุสัมผัส นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นอารมณ์
ของจักขุสัมผัส.
[560] รูปเป็นอารมณ์ของเวทนาอันเกิดแต่จักษุสัมผัส ฯลฯ
ของสัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของจักขุวิญญาณ
นั้น เป็นไฉน ?
รูปายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอารมณ์ของจักขุวิญญาณ.
รูปไม่เป็นอารมณ์ของจักขุวิญญาณ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นอารมณ์
ของจักขุวิญญาณ.
[561] รูปเป็นอารมณ์ของโสตสัมผัส ฯลฯ ของฆานสัมผัส
ฯลฯ ของชิวหาสัมผัส ฯลฯ ของกายสัมผัส
นั้น เป็นไฉน ?

โผฏฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอารมณ์ของกายสัมผัส.
รูปไม่เป็นอารมณ์ของกายสัมผัส นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นอารมณ์
ของกายสัมผัส.
[562] รูปเป็นอารมณ์ของเวทนาอันเกิดแต่กายสัมผัส ฯลฯ
ของสัญญา ฯลฯ ของเจตนา ฯลฯ ของกายวิญญาณ
นั้น เป็นไฉน ?
โผฏฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอารมณ์ของกายวิญญาณ.
รูปไม่เป็นอารมณ์ของกายวิญญาณ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นอารมณ์
ของกายวิญญาณ.
[563] รูปเป็นจักขายตนะ นั้น เป็นไฉน ?
จักขุใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป 4 ฯลฯ นี้เรียกว่า จักขุบ้าง
ฯลฯ บ้านว่างบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นจักขายตนะ.
รูปไม่เป็นจักขายตนะ นั้น เป็นไฉน ?
โสตายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นจักขายตนะ.
[564] รูปเป็นโสตายตนะ ฯลฯ เป็นฆานายตนะ ฯลฯ เป็น
ชิวหายตนะ ฯลฯ เป็นกายายตนะ
นั้น เป็นไฉน ?
กายใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป 4 ฯลฯ นี้เรียกว่า กายบ้าง
ฯลฯ บ้านว่างบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นกายายตนะ.
รูปไม่เป็นกายายตนะ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นกายายตนะ.

[565] รูปเป็นรูปายตนะ นั้น เป็นไฉน ?
รูปใด เป็นสี อาศัยมหาภูตรูป 4 ฯลฯ นี้เรียกว่า รูปบ้าง รูปายตนะ
บ้าง รูปธาตุบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นรูปายตนะ.
รูปไม่เป็นรูปายตนะ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นรูปายตนะ.
[566] รูปเป็นสัททายตนะ ฯลฯ เป็นคันธายตนะ ฯลฯ เป็น
รสายตนะ ฯลฯ เป็นโผฏฐัพพายตนะ
นั้น เป็นไฉน ?
ปฐวีธาตุ ฯลฯ นี้เรียกว่า โผฏฐัพพะบ้าง โผฏฐัพพายตนะบ้าง
โผฏฐัพพธาตุบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นโผฏฐัพพายตนะ.
รูปไม่เป็นโผฏฐัพพายตนะ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นโผฏ-
ฐัพพายตนะ.
[567] รูปเป็นจักขุธาตุ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นจักขุธาตุ.
รูปไม่เป็นจักขุธาตุ นั้น เป็นไฉน ?
โสตายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นจักขุธาตุ.
[568] รูปเป็นโสตธาตุ ฯลฯ เป็นเป็นฆานธาตุ ฯลฯ เป็น
ชิวหาธาตุ ฯลฯ เป็นกายธาตุ
นั้น เป็นไฉน ?
กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นกายธาตุ.
รูปไม่เป็นกายธาตุ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นกายธาตุ.
[569] รูปเป็นรูปธาตุ นั้น เป็นไฉน ?
รูปายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นรูปธาตุ.

รูปไม่เป็นรูปธาตุ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นรูปธาตุ.
[570] รูปเป็นสัททธาตุ ฯลฯ เป็นคันธธาตุ ฯลฯ เป็น
รสธาตุ ฯลฯ เป็นโผฏฐัพพธาตุ
เป็นไฉน ?
โผฏฐัพพายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นโผฏฐัพพธาตุ.
รูปไม่เป็นโผฏฐัพพธาตุ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
โผฏฐัพพธาตุ.
[571] รูปเป็นจักขุนทรีย์ นั้น เป็นไฉน ?
จักขุใดเป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป 4 ฯลฯ นี้เรียกว่าจักขุบ้าง ฯลฯ
บ้านว่างบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นจักขุนทรีย์.
รูปไม่เป็นจักขุนทรีย์ นั้น เป็นไฉน ?
โสตายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
จักขุนทรีย์.
[572] รูปเป็นโสตินทรีย์ ฯลฯ เป็นฆานินทรีย์ ฯลฯ เป็น
ชิวหินทรีย์ ฯลฯ เป็นกายินทรีย์
ฯลฯ นั้น เป็นไฉน ?
กายใด เป็นปสาทรูป อาศัยมหาภูตรูป 4 ฯลฯ นี้เรียกว่ากายบ้าง
ฯลฯ บ้านว่างบ้าง รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นกายินทรีย์.
รูปไม่มีกายินทรีย์ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
กายินทรีย์.

[573] รูปเป็นอิตถินทรีย์ นั้น เป็นไฉน ?
ทรวดทรงหญิง เครื่องหมายให้รู้ว่าหญิง กิริยาหญิง อาการหญิง
สภาพหญิง ภาวะหญิง ของหญิง ปรากฏได้ด้วยเหตุใด รูปทั้งนี้เรียกว่า
รูปเป็นอิตถินทรีย์.
รูปไม่เป็นอิตถินทรีย์ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
อิตถินทรีย์.
[574] รูปเป็นปุริสินทรีย์ นั้น เป็นไฉน ?
ทรวดทรงชาย เครื่องหมายให้รู้ว่าชาย กิริยาชาย อาการชาย สภาพ
ชาย ภาวะชาย ของชาย ปรากฏได้ด้วยเหตุใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็น
ปุริสินทรีย์.
รูปไม่เป็นปุริสินทรีย์ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
ปุริสินทรีย์.
[575] รูปเป็นชีวิตินทรีย์ นั้น เป็นไฉน ?
อายุ ความดำรงอยู่ ความเป็นไปอยู่ กิริยาที่เป็นไปอยู่ อาการที่
สืบเนื่องกันอยู่ ความประพฤติเป็นไปอยู่ ความหล่อเลี้ยงอยู่ ชีวิต อินทรีย์
คือชีวิตของรูปธรรมนั้น ๆ อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นชีวิตินทรีย์.
รูปไม่เป็นชีวิตินทรีย์ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
ชีวิตินทรีย์.

[576] รูปเป็นกายวิญญัตติ เป็นไฉน ?
การเคร่งตึง กิริยาที่เคร่งตึงด้วยดี ความที่เคร่งตึงด้วยดี การแสดง
ให้รู้ความหมาย กิริยาที่แสดงให้รู้ความหมาย ความแสดงให้รู้ความหมาย
แห่งกายของบุคคลผู้มีจิตเป็นกุศล หรือมีจิตเป็นอกุศล หรือมีจิตเป็นอัพยากฤต
ก้าวไปอยู่ ถอยกลับอยู่ แลดูอยู่ เหลียวซ้ายแลขวาอยู่ คู้เข้าอยู่ หรือเหยียด
ออกอยู่ อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นกายวิญญัตติ.
รูปไม่เป็นกายวิญญัตติ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นกาย
วิญญัตติ.
[577] รูปเป็นวจีวิญญัตติ นั้น เป็นไฉน ?
การพูด การเปล่งวาจา การเจรจา การกล่าว การป่าวร้อง การ
โฆษณา วาจา วจีเภท แห่งบุคคลผู้มีจิตเป็นกุศล หรือมีจิตเป็นอกุศล หรือ
มีจิตเป็นอัพยากฤต อันใด นี้เรียกว่า วาจา, การแสดงให้รู้ความหมาย กิริยา
ที่แสดงให้รู้ความหมาย ความแสดงให้รู้ด้วยวาจานั้น อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า
รูปเป็นวจีวิญญัตติ.
รูปไม่เป็นวจีวิญญัตติ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
วจีวิญญัตติ.
[578] รูปเป็นอากาศธาตุ นั้น เป็นไฉน ?
อากาศ ธรรมชาติอันนับว่าอากาศ ความว่างเปล่า ธรรมชาติอัน
นับว่าความว่างเปล่า ช่องว่าง ธรรมชาติอันนับว่าช่องว่าง อันมหาภูตรูป 4
ไม่ถูกต้องแล้ว อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอากาศธาตุ.

รูปไม่เป็นอากาศธาตุ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
อากาศธาตุ.
[579] รูปเป็นอาโปธาตุ นั้น เป็นไฉน ?
ความเอิบอาบ ธรรมชาติที่เอิบอาบ ความเหนียว ธรรมชาติที่เหนียว
ธรรมชาติเครื่องเกาะกุมรูป อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นอาโปธาตุ.
รูปไม่เป็นอาโปธาตุ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
อาโปธาตุ.
[580] รูปเป็นในรูปลหุตา นั้น เป็นไฉน ?
ความเบา ความรวดเร็ว ความไม่เชื่องช้า ความไม่หนัก แห่งรูป
อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นรูปลหุตา.
รูปไม่เป็นรูปลหุตา นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
รูปลหุตา.
[581] รูปเป็นรูปมุทุตา นั้น เป็นไฉน ?
ความอ่อน ภาวะที่อ่อน ความไม่แข็ง ความไม่กระด้าง แห่งรูปอันใด
รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นรูปมุทุตา.
รูปไม่เป็นรูปมุทุตา นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็น
รูปมุทุตา.

[582] รูปเป็นรูปกัมมัญญตา นั้น เป็นไฉน ?
กิริยาที่ควรแก่การงาน ความควรแก่การงาน ภาวะที่ควรแก่การงาน
แห่งรูป อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นรูปกัมมัญญตา.
รูปไม่เป็นรูปกัมมัญญตา นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นรูป
กัมมัญญตา.
[583] รูปเป็นรูปอุปจยะ นั้น เป็นไฉน ?
ความสั่งสมแห่งอายตนะทั้งหลาย อันใด อันนั้นเป็นความเกิดแห่งรูป
รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นรูปอุปจยะ.
รูปไม่เป็นรูปอุปจยะ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นรูป
อุปจยะ.
[584] รูปเป็นรูปสันตติ นั้น เป็นไฉน ?
ความเกิดแห่งรูป อันใด อันนั้นเป็นความสืบต่อแห่งรูป รูปทั้งนี้
เรียกว่า รูปเป็นรูปสันตติ.
รูปไม่เป็นรูปสันตติ นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นสันตติ.
[585] รูปเป็นรูปชรตา นั้น เป็นไฉน ?
ความชรา ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความ
มีหนังเหี่ยว ความเสื่อมอายุ ความหง่อมแห่งอินทรีย์ แห่งรูป อันใด รูปทั้งนี้
เรียกว่า รูปเป็นรูปชรตา.
รูปไม่เป็นรูปชรตา นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นรูปชรตา.

[586] รูปเป็นรูปอนิจจตา นั้น เป็นไฉน ?
ความสิ้นไป ความเสื่อมไป ความแตก ความทำลาย ความไม่เที่ยง
ความอันตรธานแห่งรูป อันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นรูปอนิจจตา.
รูปไม่เป็นรูปอนิจจตา นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นรูป
อนิจจตา.
[587] รูปเป็นกพฬิงการาหาร นั้น เป็นไฉน ?
ข้าวสุก ขนมสด นมแห้ง ปลา เนื้อ นมสด นมส้ม เนยใส
เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย หรือรูปแท้อื่นใด มีอยู่ อันเป็นของใส่ปาก
ขบเคี้ยว กลืนกิน อิ่มท้อง ของสัตว์นั้น ๆ ในชนบทใด ๆ สัตว์ทั้งหลาย
เลี้ยงชีวิตโดยโอซาอันใด รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปเป็นกพฬิงการาหาร.
รูปไม่เป็นกพฬิงการาหาร นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ รูปอนิจจตา รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปไม่เป็นกพฬิง-
การาหาร.
สงเคราะห์รูปเป็นหมวดละ 2 อย่างนี้.
ทุกนิเทส จบ

ติกนิเทศ


[588] รูปภายในเป็นอุปาทา นั้น เป็นไฉน ?
จักขายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายในเป็นอุปาทา.
รูปภายนอกที่เป็นอุปาทา นั้น เป็นไฉน ?
รูปายตนะ ฯลฯ กพฬิงการาหาร รูปทั้งนี้เรียกว่า รูปภายนอกที่เป็น
อุปาทา.