เมนู

ภาวรูปแม้ทั้ง 2 (หญิงชาย) นี้ ของบุคคลผู้เกิดในปฐมกัป ย่อม
ตั้งขึ้นในปวัตติกาล ในภายหลังต่อมา ภาวรูปทั้ง 2 นี้ตั้งขึ้นในปฏิสนธิกาล
แม้ตั้งขึ้นในปฏิสนธิกาล ก็ย่อมหวั่นไหว ย่อมเปลี่ยนได้ในปวัตติกาล.
เหมือนอย่างพระดำรัสที่ตรัสไว้ในพระบาลีวินีตวัตถุแห่งปฐมปาราชิก
ว่า ก็สมัยนั้นแล เพศหญิงปรากฏแก่ภิกษุรูปหนึ่ง เพศชายปรากฏ
แก่ภิกษุณีรูปหนึ่ง
*ดังนี้.
ก็บรรดาเพศทั้ง 2 นั้น เพศชายเป็นอุดมเพศ เพศหญิงเป็นหีนเพศ
ฉะนั้น เพศชายย่อมอันตรธานไปเพราะอกุศลมีกำลัง เพศหญิงย่อมตั้งขึ้นด้วย
กุศลที่เป็นทุรพล แต่เพศหญิงเมื่ออันตรธาน ย่อมอันตรธานไปด้วยอกุศลที่
เป็นทุรพล เพศชายย่อมตั้งขึ้นด้วยกุศลที่มีกำลัง. พึงทราบว่า ภาวรูปแม้ทั้ง 2
อย่างนี้ ย่อมอันตรธานไปด้วยอกุศล ย่อมตั้งขึ้นด้วยกุศล ด้วยประการฉะนี้.

ว่าโดยอุภโตพยัญชนกะ


ถามว่า

บุคคลผู้เป็นอุภโตพยัญชนกะ มีอินทรีย์เดียวหรือมีสองอินทรีย์
ตอบว่า มีอินทรีย์เดียว ก็อินทรีย์ของหญิงผู้เป็นอุภโตพยัญชนกะนั้น
แลเป็นอิตถินทรีย์ ของชายผู้เป็นอุภโตพยัญชนกะเป็นปุริสินทรีย์.
ถามว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น พยัญชนะ (เครื่องหมาย) ที่ 2 ก็ไม่ปรากฏ
เพราะตรัสไว้ว่า อินทรีย์แสดงเครื่องหมายเพศ และอินทรีย์ของบุคคลผู้เป็น
อุภโตพยัญชนกะนั้นก็ไม่มี. ตอบว่า อินทรีย์ของบุคคลนั้น เป็นเครื่องแสดง
เพศหามิได้.
ถามว่า เพราะเหตุไร ?
ตอบว่า เพราะไม่มีอยู่ทุกเมื่อ.
* วินย อา. เล่ม 1/64