เมนู

ก็ธรรมดานี้เป็นเช่นไร ก็ธรรมดาช่องหูมีอยู่ในที่ใด ๆ การฟังก็มีแต่
ที่นั้น ๆ เหมือนการเห็นดวงจันทร์ดวงอาทิตย์เป็นต้น เพราะฉะนั้น โสต-
ประสาทนี้ จึงมีอารมณ์เป็นอสัมปัตตะโดยแท้.

จมูกเปรียบด้วยนก


แม้นกก็ไม่ยินดีบนต้นไม้หรือพื้นดิน แต่ในเวลาใดมันโผบินเลยล่วง
การขว้างก้อนดินหนึ่งระยะหรือสองระยะบินขึ้นไปสู่อากาศว่างเปล่า ในเวลานั้น
มันก็จะมีจิตสงบ ฉันใด แม้ฆานะก็ฉันนั้นเหมือนกัน มีความพอใจในอากาศ มี
กลิ่นโดยอาศัยลมเป็นอารมณ์ เหมือนอย่างโค เมื่อฝนตกใหม่ๆ ก็สูดดมแผ่นดิน
แล้วก็เบิ่งหน้าหาอากาศสูดลม และเวลาที่บุคคลแม้เอานิ้วมือจับก้อนที่มีกลิ่น
แล้วสูดดมไม่หันหน้ามาทางลมก็ไม่รู้กลิ่นนั้น.

ลิ้นเปรียบด้วยสุนัขบ้าน


แม้สุนัขบ้านเมื่อเที่ยวไปภายนอก ย่อมไม่เห็นที่ปลอดภัย ย่อมถูก
ประทุษร้ายโดยการถูกขว้างด้วยก้อนดินเป็นต้น เข้าไปสู่ภายในบ้านแล้วก็คุ้ย
ขี้เถ้าที่เตาไฟก็นอนเป็นสุข ฉันใด แม้ชิวหาก็ฉันนั้นเหมือนกัน มีอัชฌาสัย
ในบ้าน มีรสอาศัยอาโปธาตุเป็นอารมณ์ จริงอย่างนั้น ภิกษุแม้กระทำสมณ-
ธรรมตลอดสามยามแห่งราตรีแล้ว ถือบาตรและจีวรแต่เช้าตรู่เข้าไปสู่บ้าน
เพราะว่าเมื่อของเคี้ยวแห้งไม่เปียกด้วยน้ำลาย ใคร ๆ ก็ไม่อาจเพื่อรู้รสได้.

กายเปรียบด้วยสุนัขจิ้งจอก


แม้สุนัขจิ้งจอกเมื่อเที่ยวไปภายนอกก็ไม่ประสบความยินดี แต่เมื่อมัน
เคี้ยวกินเนื้อมนุษย์ในป่าช้าผีดิบแล้วนอนนั่นแหละ มันจึงมีความสุขฉันใด