เมนู

สัจจะที่ปฐมมรรคไม่เห็นมีอยู่ ก็จงแจกอนัญตัญญัสสามีตินทรีย์ แม้ในมรรค
เบื้องบน ดังนี้ ด้วยอาการอย่างนี้ ปัญหาของท่านก็จักสงบ.
ถามว่า ก็มรรคอย่างหนึ่งย่อมละกิเลสอย่างหนึ่ง คือย่อมละกิเลสที่ยัง
ไม่ได้ละ มิใช่หรือ ?
ตอบว่า ผิว่า มรรคอย่างหนึ่งย่อมละกิเลสดังนี้ มรรคอย่างหนึ่งก็ย่อม
ละกิเลสอย่างหนึ่ง ที่ยังมิได้ละไซร้ บุคคลก็พึงมีวาทะอย่างนี้ว่า มรรคสาม
เบื้องบนย่อมเห็นแม้สัจจะทั้งหลายที่ปฐมรรคมิได้เห็นแล้วนั่นแหละ ดังนี้
พึงถามคำนี้ว่า ชื่อว่า สัจจะทั้งหลาย มีเท่าไร ? เมื่อทราบก็จักตอบว่า
มี 4 พึงท้วงท่านว่า ในวาทะของท่าน สัจจะปรากฏถึง 16 อย่าง ท่านย่อม
เห็นสัจจะแม้พระพุทธเจ้าไม่ทรงเห็นแล้ว ชื่อว่า มีสัจจะมาก ท่านอย่าถือ
เอาอย่างนี้เลย การเห็นสัจจะที่ยังไม่เคยเห็นย่อมไม่มี แต่มรรคย่อมละกิเลส
ทั้งหลายที่ยังมิได้ละ ดังนี้.

การอุปมาด้วยหีบรัตนะ



ในข้อที่ว่าการเห็นสัจจะที่ไม่เคยเห็นมาก่อนไม่มีในอธิการแห่งมรรค
นั้น ท่านถือเอาการเปรียบเทียบด้วยหีบรัตนะดังต่อไปนี้.
ได้ยินว่า บุรุษคนหนึ่งวางหีบรัตนะ 4 ใบไว้ในห้องอันเป็นที่เก็บ
รัตนะอันสูงสุด เขามีหน้าที่ทำเกิดขึ้นในหีบ ในเวลากลางคืนจึงเปิดประตูจุด
ประทีปให้โพลง เมื่อความมืดถูกประทีปขจัดแล้ว หีบทั้งหลายก็ปรากฏ เขาทำ
ธุระในหีบนั้นแล้วปิดประตูออกไป ความมืดก็ปกคลุมตามเดิม แม้ในครั้งที่ 2
แม้ในครั้งที่ 3 ก็ได้กระทำเหมือนอย่างนั้น ในครั้งที่ 4 เมื่อเขาจะทดลองดูว่า
เมื่อเปิดประตูแล้ว หีบรัตนะจะปรากฏในความมืดหรือไม่นั่นแหละ พระอาทิตย์