เมนู

ว่าโดยนัยอรรถกถาปุตตกะ



บัดนี้ ในการที่อารมณ์มาสู่คลองด้วยสามารถแห่งรูปที่เคยเห็นแล้ว
เป็นต้นตามปกติ มีอีกนัยหนึ่ง คือ อรรถกถามุตตกะ (นอกจากอรรถกถา)
อนึ่ง เบื้องต้นบัณฑิตพึงทราบรูปทั้งหลายที่เห็นแล้วเป็นต้นเหล่านี้ว่า ทิฏฺฐํ สุตํ
เป็นความเกี่ยวข้องกันทั้ง 2 บท.
ในคำว่า ทิฏฺฐํ สุตํ เหล่านั้น รูปที่เคยถือเอาด้วยสามารถแห่ง
ทวาร 5 ชื่อว่า ทิฏฺฐํ และรูปเป็นต้นที่บุคคลไม่เห็นโดยประจักษ์ แต่ถือ
เอาโดยการได้ฟังมา ชื่อว่า สุตํ. การเกี่ยวเนื่องกันด้วยบทว่า ทิฏฺฐํ สุตํ
เหล่านี้แม้ทั้ง 2 ชื่อว่า อุภยสัมพันธะ บัณฑิตพึงทราบว่า อารมณ์เหล่านี้
ย่อมมาสู่คลองในมโนทวารด้วยสามารถแห่งรูปที่เห็นแล้วเป็นต้น แม้เหล่านี้
อย่างนี้ การมาสู่คลองด้วยสามารถแห่งรูปที่เห็นแล้วในคำว่า ทิฏฺฐํ สุตํ
นั้นเท่านั้น ข้าพเจ้ากล่าวไว้แล้วโดยนัยทั้งหลาย 5 นัย นั่นแหละ.
ก็คนบางคนได้ยินว่า รูป ชื่อเห็นปานนี้ เกิดด้วยบุญอันประเสริฐยิ่ง
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระสุรเสียงก็ไพเราะยิ่ง กลิ่นดอกไม้ทั้งหลายในที่
บางแห่ง หอมชื่นใจยิ่งแก่คนบางคน รสของผลไม้ทั้งหลายก็อร่อยยิ่งแก่คน
บางคน สัมผัสของผ้านุ่งห่มเป็นต้นก็เป็นสุขยิ่งแก่คนบางคน ดังนี้ รูปเป็นต้น
เหล่านั้นสักว่าฟังมาเท่านั้น มิได้กระทบกับประสาทมีจักขุประสาทเป็นต้นของ
บุคคลนั้นเลยย่อมมาสู่คลองในมโนทวาร ลำดับนั้น จิตนั้นของบุคคลนั้นย่อม
เป็นไปด้วยอำนาจความเลื่อมใสในรูปหรือในเสียง หรือว่าย่อมเป็นไปในกลิ่น
เป็นต้นด้วยอำนาจความปรารถนาถวายทานแก่พระอริยะทั้งหลาย หรือว่าด้วย
สามารถแห่งการอนุโมทนา ในทานทั้งหลายอันบุคคลเหล่าอื่นถวายแล้ว รูป
เป็นต้นเหล่านี้ ย่อมมาสู่คลองในมโนทวารด้วยสามารถแห่งการได้ฟังมาแล้ว
ด้วยประการฉะนี้.