เมนู

ธรรมเหล่าใด นับเนื่องในสังสารหยั่งลงภายใน ในวัฏฏะอันเป็นไปใน
ภูมิ 3 เพราะฉะนั้น ธรรมเหล่านั้นจึงชื่อว่า ปริยาปันนะ ธรรมที่ไม่นับ
เนื่องในวัฏอันเป็นภูมิ 3 นั้น ชื่อว่า อปริยาปันนะ.
ธรรมเหล่าใด ตัดมูลแห่งวัฏฏะกระทำพระนิพพานให้เป็นอารมณ์ออก
ไปจากวัฏฏะ เพราะฉะนั้น ธรรมเหล่านั้นจึงชื่อว่า นิยยานิกะ ธรรมที่ไม่
นำออกไปโดยลักษณะนี้ ชื่อว่า อนิยยานิกะ.
ธรรมที่ชื่อว่า นิยตะ เพราะให้ผลแน่นอนในลำดับแห่งจุติ หรือ
ความเป็นไปของตน. ธรรมที่ไม่ให้ผลแน่นอนเหมือนอย่างนั้น ชื่อว่า อนิยตะ.
ธรรมที่ชื่อว่า อุตตระ เพราะย่อมข้ามพ้น คือ ย่อมละธรรมเหล่าอื่น
ไป. ที่ชื่อว่า สอุตตระ เพราะมีอุตตรธรรมอันสามารถเพื่ออันข้ามพ้นตนขึ้น
ไป. ที่ชื่อว่า อนุตตรธรรม เพราะอุตตรธรรมของธรรมเหล่านั้นไม่มี.
ธรรมเหล่าใด ย่อมยังสัตว์ทั้งหลายให้ร้องไห้ เพราะเหตุนั้น ธรรม
เหล่านั้นจึงชื่อว่า รณะ คำว่า รณธรรม นี้เป็นชื่อของกิเลสมีราคะเป็นต้นที่สัตว์
ทั้งหลายถูกกิเลสครอบงำแล้ว ย่อมร้องไห้คร่ำครวญโดยประการต่าง ๆ ธรรม
ที่ชื่อว่า สรณะ เพราะมีรณธรรมด้วยสามารถแห่งสัมปโยคะ และด้วยสามารถ
แห่งการตั้งอยู่ในฐานเดียวกันแห่งการละ ธรรมที่ชื่อว่า อสรณะ เพราะ
สรณธรรมของธรรมเหล่านั้น ไม่มีอยู่โดยอาการนั้น.

ว่าด้วยสุตตันตติกทุกะ



พึงทราบวินิจฉัยในหมวด 2 แห่งสุตตันตมาติกา ต่อไป.
ธรรมเหล่าใด ย่อมเสพวิชชาด้วยสามารถแห่งสัมปโยคะ เพราะเหตุนั้น
ธรรมเหล่านั้นจึงชื่อว่า วิชชาภาคี. อีกอย่างหนึ่ง ธรรมเหล่าใดย่อมยังส่วน
แห่งวิชชาให้เป็นไปในส่วนแห่งวิชชา เพราะเหตุนั้น ธรรมเหล่านั้นจึงชื่อว่า