เมนู

ธรรมที่ชื่อว่า อุปปันนะ เพราะอรรถว่า เป็นไปทั่วจำเดิมแต่
อุปปาทขณะจนถึงภังคขณะอันยังไม่เลยไป. ธรรมที่ไม่ใช่อุปปันนะ เรียกว่า
อนุปปันนะ ธรรมใดจักเกิดขึ้นแน่นอนเพราะเป็นส่วนหนึ่งแห่งเหตุที่สำเร็จ
แล้ว เพราะฉะนั้น ธรรมนั้น จึงชื่อว่า อุปปาทิ.


ว่าด้วยอตีตติกะที่ 18



พึงทราบวินิจฉัยในหมวด 3 แห่งอตีตธรรม ต่อไป
ธรรมที่ชื่อว่า อตีตะ เพราะอรรถว่า ถึงสภาวะของตน หรือถึง
อุปปาทขณะเป็นต้นแล้วก็ล่วงเลยไป. ธรรมที่ยังไม่ถึงสภาวะของตน หรืออุป-
ปาทขณะเป็นต้นทั้งสองนั้น ชื่ออนาคตะ ธรรมที่อาศัยเหตุนั้น ๆ เกิดขึ้น
ชื่อว่า ปัจจุปปันนะ.

ว่าด้วยอนันตรติกะที่ 19



พึงทราบวินิจฉัยในหมวด 3 แห่งอนันตรธรรม เป็นต้น
อดีตธรรมที่เป็นอารมณ์ของธรรมเหล่านั้นมีอยู่ เพราะเหตุนั้น ธรรม
เหล่านั้น จึงชื่อว่า อตีตารัมมณะ แม้สองบทที่เหลือก็นัยนี้เหมือนกัน.

ว่าด้วยอัชฌัตตติกะที่ 20



พึงทราบวินิจฉัยในหมวด 3 แห่งอัชฌัตตธรรม ต่อไป
ธรรมที่ชื่อว่า อัชฌัตตะ เพราะอรรถว่า กระทำของตนให้เป็นใหญ่เหมือน
ประสงค์เอาอย่างนี้ว่า พวกเราเมื่อเป็นอยู่อย่างนี้ พวกเราก็จักยึดถือเป็นอัตตา
ดังนี้. ส่วนอัชฌัตตศัพท์นี้ใช้ในความหมาย 4 อย่างคือ