เมนู

14. เอกราชจริยา


ว่าด้วยจริยาวัตรของพระเจ้าเอกราช


[34] อีกเรื่องหนึ่ง ในกาลเมื่อเราเป็นพระราชา
ปรากฏพระนามว่าเอกราช ในกาลนั้น เรา
อธิษฐานศีลอันบริสุทธิ์ยิ่ง ปกครองแผ่นดิน
ใหญ่ สมาทานกุศลกรรมบถ 10 ประการ
ประพฤติโดยไม่มีเศษ สงเคราะห์มหาชน
ด้วยสังคหวัตถุ 4 ประการ เมื่อเราเป็นผู้ไม่
ประมาทในประโยชน์โลกนี้และโลกหน้าด้วย
อาหารอย่างนี้ พระเจ้าโกศลพระนามว่า
ทัพพเสนะ ยกกองทัพมาซึ่งเอาพระนครเรา
ได้ ทรงทำข้าราชการ ชาวนิคม พร้อมด้วย
ทหาร ชาวชนบท ให้อยู่ในเงื้อมพระหัตถ์
ทั้งหมดแล้ว ตรัสสั่งให้ฝังเราเสียในหลุม เรา
เห็นพระเจ้าทัพพเสนะกับหมู่อำมาตย์ ชิงเอา

ราชสมบัติอันมั่งคั่งภายในพระนครของเรา
เหมือนบุตรสุดที่รัก ฉะนั้น ผู้เสมอด้วย
เมตตาของเราไม่มี นี้เป็นเมตตาบารมีของเรา
ฉะนี้แล.

จบ เอกราชจริยาที่ 14

อรรถกถาเอกราชจริยาที่ 14


พึงทราบวินิจฉัยในอรรถกถาเอกราชจริยาที่ 14 ดังต่อไปนี้. บทว่า
เอกราชาติ วิสฺสุโต คือปรากฏในพื้นชมพูทวีปโดยพระนามที่กำหนดไว้
นี้ว่า เอกราช.
ในครั้งนั้น พระมหาสัตว์ทรงอุบัติเป็นโอรสพระเจ้ากรุงพาราณสี.
ครั้นทรงเจริญวัยถึงความสำเร็จศิลปะทุกแขนง ครั้นพระบิดาสวรรคต จึง
ครองราชสมบัติมีพระนามประกาศว่า เอกราช เพราะทรงบำเพ็ญบารมี
ด้วยการประกอบคุณวิเศษอันไม่ทั่วไปแก่ผู้อื่นมีศีลอาจาระ ศรัทธาและสุตะ
อันเป็นกุศลเป็นต้น และด้วยความเป็นหัวหน้าเพราะไม่มีใครเป็นที่สองใน
พื้นชมพูทวีป. บทว่า ปรมํ สีลํ อธิฏฺฐาย คืออธิษฐานศีล อันได้แก่
กุศลกรรมบถ 10 อันบริสุทธิ์สูงสุด กล่าวคือสำรวมทางกาย ทางวาจา
บริสุทธิ์ด้วยดี และประพฤติชอบทางใจบริสุทธิ์ด้วยดี ด้วยการสมาทานและ