เมนู

9. ชยทิสจริยา


ว่าด้วยจริยาวัตรของพระเจ้าชยทิส


[19] พระราชาทรงพระนามว่าชยทิส ทรงประ-
กอบด้วยศีลคุณ เสวยสมบัติในพระนครอัน
ประเสริฐชื่อกัปปิลา เป็นนครอุดมในปัญจาล
รัฐ เราเป็นโอรสของพระราชาพระองค์นั้น มี
ธรรมอันสดับแล้ว มีศีลงาม มีพระนามว่า
อลีนสัตตกุมาร มีคุณสงเคราะห์บริวารชนทุก
เมื่อ พระบิดาของเราเสด็จไปทรงล่าเนื้อ ได้
ทรงพบพระยาโปริสาท พระยาโปริสาทนั้นได้
จับพระบิดาของเราแล้วกล่าวว่า ท่านเป็น
อาหารของเราอย่าดิ้นรน พระบิดาของเราทรง
สดับคำของพระยาโปริสาทนั้น ทรงกลัวสะดุ้ง
หวาดหวั่น พระองค์มีพระเพลาแข็งกระด้าง
เพราะทอดพระเนตรเห็นพระยาโปริสาท พระ-
ยาโปริสาทรับเอาเนื้อแล้วปล่อยไปโดยบังคับ
ให้กลับมาอีก พระราชบิดาพระราชทานทรัพย์
แก่พราหมณ์ แล้วตรัสเรียกเรามาว่า พ่อลูก

ชาย จงปกครองราชสมบัติ อย่าประมาทปก-
ครองนครนี้ พระยาโปริสาทบังคับเราให้เรา
กลับไปหาอีก เราถวายบังคมพระมารดาพระ-
บิดาแล้ว ตกแต่งร่างกายสะพายธนูเหน็บพระ-
แสงขรรค์ ออกไปหาพระยาโปริสาท (เราคิด
ว่า) พระยาโปริสาทเห็นมีมือถืออาวุธ นางทีจัก
สะดุ้งกลัว แต่เพราะเมื่อเราทำความสะดุ้งกลัว
แก่พระยาโปริสาท ศีลของเราจะเศร้าหมอง
เพระเรากลัวศีลจะขาดจึงไม่นำสิ่งที่น่าเกลียด
(อาวุธ) เข้าไปใกล้พระยาโปริสาทนั้น เรามี
เมตตาจิต กล่าวคำเป็นประโยชน์ ได้กล่าวคำ
นี้ว่า ท่านจงเอาแก่นไม้มาก่อไฟให้เป็นกอง
ใหญ่ เราจะโดดเข้าไฟ ท่านผู้เป็นพระปิตุจฉา
ท่านทราบเวลาว่าเราสุกดีแล้วจงกินเถิด เราไม่
ได้รักษาชีวิตของเรา เพราะเหตุแห่งพระบิดา
ผู้ทรงศีล เราได้ให้พระยาโปริสาทผู้ฆ่าสัตว์
เป็นปกติทุกเมื่อนั้นบวชแล้ว ฉะนี้แล.

จบ ชยทิสจริยาที่ 9

อรรถกถาชยทิสจริยาที่ 9


พึงทราบวินิจฉัยในอรรถกถาชยทิสจริยาที่ 9 ดังต่อไปนี้. บทว่า
ปญฺจาลรฏฺเฐ คือในชนบทมีชื่ออย่างนี้. บทว่า นครวเร กปฺปิลายํ คือ
ในอุตตมนครอันได้ชื่ออย่างนี้ว่า กัปปิลา กล่าวว่า นครวเร แล้วยังกล่าว
ว่า ปรุตฺตเม อีก เพื่อแสดงว่านครนั้นเป็นนครเลิศกว่านครทั้งหมด ใน
ชมพูทวีปในกาลนั้น. บทว่า ชยทิโส นาม คือเมื่อพระราชาทรงชนะ
ข้าศึกของพระองค์. หรือทรงชนะชยทิศคือยักษิณีอันเป็นข้าศึกของพระองค์
เพราะเหตุนั้นจึงทรงได้พระนามอย่างนี้. บทว่า สีลคุณนุปาคโต คือทรง
ประกอบด้วยอาจารศีลและคุณธรรมของพระราชา มีความสมบูรณ์ด้วยพระ-
อุตสาหะเป็นต้น. อธิบายว่า ทรงถึงพร้อมด้วยศีลคุณนั้น.
บทว่า ตสฺส รญฺโญ คือแห่งพระเจ้าชยทิสราช. มีคำที่เหลือว่า
อหํ ปุตฺโต อโหสึ เราเป็นโอรสของพระราชาพระองค์นั้น. บทว่า สุตธมฺโม
คือ ชื่อว่าธรรมอันพระราชบุตรนั้นนิ่งสดับ. ชื่อว่า สุตธมฺโม เพราะทรง
สดับธรรมทั้งปวง อธิบายว่า เป็นพหูสูต. อีกอย่างหนึ่ง บทว่า สุตธมฺโม
คือมีธรรมปรากฏแล้ว ปรากฏชื่อเสียงด้วยธรรมจริยาสมจริยา อธิบายว่า
มีธรรมเป็นเกียรติแพร่หลายไปในโลก มีชื่ออย่างนี้ว่า อลีนสัตตกุมาร. บทว่า
คุณวา มีคุณคือประกอบด้วยคุณของมหาบุรุษอันยิ่งใหญ่. บทว่า อนุรกฺข-
ปริชโน สทา
สงเคราะห์บริวารชนทุกเมื่อ คือดูแลบริวารชนตลอดกาล