เมนู

7. มาตังคจริยา


ว่าด้วยจริยาวัตรของมาตังคชฏิล


[17] อีกเรื่องหนึ่ง ในกาลเมื่อเราเป็นชฏิล มี
ความเพียรอันแรงกล้า มีนามชื่อว่ามาตังคะ
เป็นผู้มีศีล มีจิตมั่นคงดี เราและพราหมณ์คน
หนึ่ง อยู่ที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำคงคา เราอยู่ข้างเหนือ
พราหมณ์อยู่ข้างใต้ พราหมณ์เที่ยวไปตามริมฝั่ง
ได้เห็นอาศรมของเราข้างเหนือน้ำ บริภาษเรา
ในที่นั้น แล้วแช่งให้เราศีรษะแตก ถ้าเราพึง
โกรธต่อพราหมณ์นั้น ถ้าเราไม่คุ้มครองศีล
เราแลดูพราหมณีนั้นแล้ว พึงทำให้เป็นดังเถ้า
ได้ ครั้งนั้นพราหมณ์นั้นโกรธเคืองมีใจประ-
ทุษร้าย แช่งเรามุ่งหมายจะให้ศีรษะแตก คำ
แช่งนั้นจะตกลงบนศีรษะของเขาเอง เราช่วย
เปลื้องเขาให้พ้นโดยควร เราตามรักษาศีลของ
เรา มิใช่เรารักษาชีวิตของเรา เพราะในกาล
นั้นเราเป็นผู้มีศีลเพราะเหตุแห่งโพธิญาณนั่น
เอง ฉะนี้แล.

จบ มาตังคจริยาที่ 7

อรรถกถามาตังคจริยาที่ 7


พึงทราบวินิจฉัยในอรรถกถามาตังคจริยาที่ 7 ดังต่อไปนี้. บทว่า
ชฏิโล คือมีชฎา อธิบายว่ามีผมมุ่นเป็นชฎา. บทว่า อุคฺคตาปโน มี
ความเพียรแรงกล้า เพราะมีความเพียรคือตบะแรงกล้า เพราะเผาคือข่ม
อินทรีย์ 6 อันเป็นจุดสำคัญของร่างกาย อธิบายว่ามีตบะแรงกล้า มีอินทรีย์
มั่นคงอย่างยิ่ง. อีกนัยหนึ่ง ชื่อว่า อุคฺคตาปโน เพราะเผากิเลสหยาบ
เพราะทำลายสิ่งไม่เป็นประโยชน์ อันมีในปัจจุบันเป็นต้นหลาย ๆ อย่าง
เพราะทิ้งไว้ในภายเอก หรือเพราะเผากิเลสที่ชื่อว่า อุคฺคา ด้วยอรรถว่า
น่าเกรงกลัวอย่างร้ายกาจ ด้วยตบะคือความเพียร. บทว่า มาตงฺโค นาม
นาเมน
คือ มีนามชื่อว่ามาตังคะ. เพราะชื่อนี้ของชฏิลนั้นมาแล้วโดยชาติ
ซึ่งเกิดในตระกูลมาตังคะ. บทว่า สีลวา คือถึงพร้อมด้วย. มีศีลบริสุทธิ์.
บทว่า สุสมาหิโต คือมีจิตตั้งมั่นด้วยดี ด้วยอุปจารสมาธิและอัปปนาสมาธิ.
อธิบายว่า เป็นผู้ได้ฌานสมาบัติ.
ก็ในกาลนั้นพระโพธิสัตว์บังเกิดในกำเนิดคนจัณฑาล มีรูปร่างน่า
เกลียดอยู่ในบ้านคนจัณฑาลนอกพระนคร. มีชื่อตามประกาศว่า มาตังค-
บัณฑิต. อยู่มาวันหนึ่ง ในพระนคร เมื่อประกาศเล่นนักขัตฤกษ์ ชาวเมือง
โดยมากก็พากันไปเล่นนักขัตฤกษ์. หญิงสาวของพราหมณ์มหาศาลคนหนึ่ง
มีอายุ 15 - 16 ปี มีรูปสวยน่าดูน่าเลื่อมใสดุจเทพกัญญาคิดว่าเราจักเล่น
นักขัตฤกษ์ตามสมควรแก่สมบัติของตน จึงบันทุกของเคี้ยวของบริโภคเป็น