เมนู

เมื่อมาประสบอานิสงส์อย่างนี้ ก็ตั้งอยู่ในอัตภาพเป็นพระเวสสันดร ทำบุญยิ่ง
ใหญ่ ที่ทำให้มหาปฐพีไหวเป็นต้นอย่างนี้ว่า
แผ่นปฐพีนี้ไม่มีใจ ไม่รู้สึกสุขทุกข์ แผ่นปฐพี
แม้นั้น ก็ไหวถึง 7 ครั้ง เพราะกำลังทานของเรา.

ุสุดท้ายแห่งอายุ ก็จุติจากอัตภาพนั้น บังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต.

เรื่องนิทานกาลใกล้


เมื่อพระโพธิสัตว์กำลังอยู่ในภพดุสิต ธรรมคำว่าพุทธโกลาหลก็เกิด
ขึ้น. จริงอยู่ เกิดโกลาหลขึ้นในโลก 3 อย่าง คือ กัปปโกลาหล พุทธโกลาหล
และจักกวัตติโกลาหล บรรดาโกลาหลทั้ง 3 นั้น เหล่าเทวดาชั้นกามาวจร
ชื่อว่า โลกพยูหะ ทราบว่า ล่วงไปแสนปีกัปจักตั้งขึ้น ดังนี้ ปล่อยผมสยาย
ร้องไห้เอาหัตถ์ฟายน้ำตา นุ่งห่มผ้าแดง ทรงเพศแปลก ๆ อย่างยิ่ง เที่ยวไป
ในถิ่นมนุษย์ บอกกล่าวว่า ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย ล่วงไปแสนปีนับ
แต่วันนี้ไปกัปจักตั้งขึ้น โลกนี้จักพินาศไป แม้มหาสมุทรก็จักเหือดแห้ง มหา
ปฐพีแผ่นนี้และขุนเขาสิเนรุ จักมอดไหม้พินาศไป ความพินาศจักมีจนถึง
พรหมโลก ดูก่อนท่านผู้นี้นิรทุกข์ พวกท่านจงเจริญเมตตา กรุณา มุทิตา
อุเบกขา จงบำรุงมารดาบิดา จงเป็นผู้ยำเกรงในท่านผู้ใหญ่ในตระกูล ดังนี้
นี้ชื่อว่า กัปปโกลาหล.
เทวดาฝ่ายโลกบาลทราบว่า ล่วงไปพันปี จักเกิดพระสัพพัญญู-
สัมพุทธเจ้าขึ้นในโลก จึงเที่ยวไปโฆษณาว่า ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์ ตั้งแต่นี้
ล่วงไปพันปี จักเกิดพระพุทธเจ้าขึ้นในโลก ดังนี้ นี้ชื่อว่า พุทธโกลาหล.