เมนู

พระผู้เป็นเทพแห่งเทพแม้พระองค์นั้น ทรงมี
สาวกสันนิบาต ประชุมพระสาวกขีณาสพผู้ไร้มลทิน
คงที่ ครั้งเดียว.
ครั้งนั้น เป็นสันนิบาตประชุมภิกษุสาวกของผู้
เป็นพระขีณาสพ ล่วงอริยบุคคลระดับอื่น เสมอกัน
ด้วยหิริและศีล.


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อติกฺกนฺตภวนฺตานํ ได้แก่ ผู้เกินระดับ
ปุถุชนและอริยบุคคลมีพระโสดาบันเป็นต้น คือเป็นพระขีณาสพหมดทั้งนั้น.
บทว่า หิริสีเลน ตาทีนํ ได้แก่ ผู้เสมอกันด้วยหิริและศีล.
ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์ของเรา เป็นมาณพชื่อ โชติปาละ จบไตรเพท
มีชื่อเสียงในการทำนายลักษณะพื้นดิน และลักษณะอากาศ เป็นสหายของ
ฆฏิการะอุบาสก ช่างหม้อ. โชติปาลมาณพนั้น เข้าเฝ้าพระศาสดาพร้อมกับ
ฆฏิการะอุบาสกนั้น ฟังธรรมกถาของพระองค์แล้วก็บวชในสำนักของพระองค์
พระโพธิสัตว์นั้น ทรงปรารภความเพียร เล่าเรียนพระไตรปิฎกแล้ว ยังพระ-
พุทธศาสนาให้งามด้วยการปฏิบัติข้อวัตรใหญ่น้อย พระศาสดาแม้พระองค์นั้น
ก็ทรงพยากรณ์พระโพธิสัตว์นั้น. ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
ครั้งนั้น เราเป็นมาณพปรากฏชื่อว่า โชติปาละ
เป็นผู้คงแก่เรียน ทรงมนต์ จบไตรเพท.
ถึงฝั่งในลัทธิธรรมของตน ในลักษณศาสตร์
และอิติหาสศาสตร์ ฉลาดในลักษณะพื้นดินและอากาศ
สำเร็จวิทยาอย่างสมบูรณ์.

อุปัฏฐากของพระผู้มีพระภาคเจ้ากัสสปะชื่อว่า
ฆฏิการะ เป็นผู้น่าเคารพ น่ายำเกรง อันพระกัสสป-
พุทธเจ้าทรงสั่งสอนในพระอริยผลที่ 3 [อนาคามิผล].
ฆฏิการะอุบาสก พาเราเข้าไปเฝ้าพระกัสสปชิน-
พุทธเจ้า เราฟังธรรมของพระองค์แล้วก็บวชในสำนัก
ของพระองค์.
เราปรารภความเพียร ฉลาดในข้อวัตรใหญ่น้อย
จึงไม่เสื่อมคลายในที่ไหนๆ ยังศาสนาของพระชิน-
พุทธเจ้าให้เต็มแล้ว.
เราเล่าเรียนนวังคสัตถุศาสน์ อันเป็นพระพุทธ
ดำรัสตลอดหมด จึงยังพระศาสนาของพระชินพุทธเจ้า
ให้งาม.
พระพุทธเจ้าแม้พระองค์นั้น ทรงเห็นความ
อัศจรรย์ของเรา ก็ทรงพยากรณ์ว่า ในภัทรกัปนี้
ท่านผู้นี้จักเป็นพระพุทธเจ้า.
พระตถาคต ออกอภิเนษกรมณ์จากกรุงกบิลพัสดุ์
อันน่ารื่นรมย์ ฯ ล ฯ จักอยู่ต่อหน้าของท่านผู้นี้.
เราฟังพระดำรัสของพระองค์แล้ว จิตก็ยิ่งเลื่อม
ใส จึงอธิษฐานข้อวัตรยิ่งยวดขึ้นไป เพื่อบำเพ็ญบารมี
10 ให้บริบูรณ์.
เราท่องเที่ยวอย่างนี้ เว้นขาดอนาจาร เราทำ
กิจกรรมที่ทำได้ยาก เพราะเหตุแห่งพระโพธิญาณ
อย่างเดียว.

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ภูมนฺตลิกฺขกุสโล ความว่า เป็น
ผู้ฉลาด ในวิชาสำรวจพื้นดิน วิชาดูลักษณะอากาศ วิชาดาราศาสตร์และ
วิชาโหราศาสตร์. บทว่า อุปฏฺฐโก แปลว่า ผู้บำรุง. บทว่า
สปฺปติสฺโส ได้แก่ ผู้น่าเกรงขาม. บทว่า นิพฺพุโต ได้แก่ อันทรงแนะ
นำแล้ว หรือปรากฏแล้ว. บทว่า ตติเย ผเล เป็นนิมิตสัตตมี ความว่า
อันทรงแนะนำแล้ว เพราะเหตุบรรลุอริยผลที่ 3. บทว่า อาทาย ได้แก่
พาเอา. บทว่า วตฺตาวตฺเตสุ ได้แก่ ในข้อวัตรน้อยและข้อวัตรใหญ่. บทว่า
โกวิโท ได้แก่ ผู้ฉลาดในการยังข้อวัตรเหล่านั้นให้เต็ม. ด้วยบทว่า น กฺวจิ
ปริหายามิ ทรงแสดงว่า เราไม่เสื่อมแม้ในที่ไหนๆ แม้แต่ในศีลหรือสมาธิ
สมาบัติเป็นต้นอย่างไหน ๆ ขึ้นชื่อว่า ความเสื่อมของเราในคุณทั้งปวง ไม่มี
เลย. ปาฐะว่า น โกจิ ปริหายามิ ดังนี้ก็มี ความก็อย่างนั้นเหมือนกัน.
คำว่า ยาวตา นั้น เป็นคำแสดงขั้นตอน. ความว่า มีประมาณ
เพียงไร. บทว่า พุทฺธภณิตํ ได้แก่ พระพุทธวจนะ. บทว่า โสภยึ ได้แก่
ให้งามแล้ว ให้แจ่มแจ้งแล้ว. บทว่า มม อจฺฉริยํ ความว่า พระผู้มี
พระภาคเจ้ากัสสปะ ทรงเห็นสัมมาปฏิบัติของเรา ไม่ทั่วไปกับคนอื่นๆ น่า
อัศจรรย์ไม่เคยมี. บทว่า สํสริตฺวา ได้แก่ ท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏ. บทว่า
อนาจรํ ได้แก่ อนาจารที่ไม่พึงทำ ไม่ควรทำ.
ก็พระผู้มีพระภาคเจ้ากัสสปะพระองค์นั้น ทรงมีนครเกิดชื่อว่าพาราณสี
มีชนกเป็นพราหมณ์ชื่อว่า พรหมทัตตะ มีชนนีเป็นพราหมณีชื่อว่า ธนวดี
มีคู่พระอัครสาวกชื่อว่าพระติสสะและพระภารทวาชะมีพุทธอุปัฏฐากชื่อว่า
พระสัพพมิตตะมีคู่พระอัครสาวิกาชื่อว่าพระอนุฬาและอุรุเวฬาโพธิพฤกษ์