เมนู

เมื่อพระกัสสปพุทธเจ้า ผู้นำโลก ทรงประกาศ
พระธรรมจักร อภิสมัยครั้งที่ 1 ได้มีแก่สัตว์สองหมื่น
โกฏิ.


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สญฺฉฑฺฑิตํ ได้แก่ อันเขาละแล้ว ทิ้ง
แล้ว เสียสละแล้ว. บทว่า กุลมูลํ ความว่า เรือนแห่งสกุล มีกองโภคะ
นับไม่ถ้วน มีกองทรัพย์หลายพันโกฏิ มีโภคะเสมือนภพท้าวสหัสสนัยน์ ที่
สละได้แสนยาก ก็สละได้เหมือนอย่างหญ้า. บทว่า ยาจเก ได้แก่ ให้แก่
ยาจกทั้งหลาย. บทว่า อาฬกํ ได้แก่ คอกโค. อธิบายว่า โคอุสภะพังคอก
เสียแล้วก็ไปยังที่ปรารถนาได้ตามสบาย ฉันใด แม้พระมหาบุรุษทำลายเครื่อง
ผูกคือเรือนเสียแล้ว ก็ทรงบรรลุพระอภิสัมโพธิญาณได้ ฉันนั้น.
ต่อมาอีก เมื่อพระศาสดาเสด็จจาริกไปในชนบท อภิสมัยครั้งที่ 2 ได้
มีแก่สัตว์หนึ่งหมื่นโกฏิ ครั้งพระองค์ทรงทำยมกปาฏิหาริย์ที่โคนต้นประดู่ ใกล้
ประตูสุนทรนคร ทรงแสดงธรรม อภิสมัยครั้งที่ 3 ได้มีแก่สัตว์ห้าพันโกฏิ
ต่อมาอีก ทรงทำยมกปาฏิหาริย์แล้ว ประทับนั่ง ณ เทวสภาชื่อสุธัมมา ในภพ
ดาวดึงส์ ซึ่งยากนักที่ข้าศึกของเทวดาจะครอบงำได้ เมื่อทรงแสดงอภิธรรม-
ปิฏก 7 คัมภีร์ เพื่อทรงอนุเคราะห์เทวดาทั้งหลาย ในหมื่นโลกธาตุ มีธนวดี
ชนนีของพระองค์เป็นประมุข ทรงยังเทวดาสามพันโกฏิให้ดื่มอมฤตธรรม
ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
ครั้ง พระพุทธเจ้าเสด็จจาริกไปในโลก 4 เดือน
อภิสมัยครั้งที่ 2 ได้มีแก่สัตว์หนึ่งหมื่นโกฏิ.