เมนู

ช้างเอราวัณ ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยกำลังรูปลักษณะและฝีเท้า ประดับด้วยข่ายทอง
และมาลัย งามระยับด้วยพัดจามรคู่งาสวมปลอกทองใหม่งาม มีหูใหญ่และอ่อน
หน้างามระยับด้วยรอยดวงจันทร์ และถวายกัปปิยะภัณฑ์ มีขนาดเท่าช้างนั่นแหละ
พระศาสดาแม้พระองค์นั้น ก็ทรงพยากรณ์ พระโพธิสัตว์นั้นว่า สามสิบเอ็ดกัป
นับแต่กัปนี้ไป ท่านจักเป็นพระพุทธเจ้า. ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
สมัยนั้น เราเป็นกษัตริย์นามว่า อรินทมะ เลี้ยง
ดูพระสงฆ์มีพระสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน ให้อิ่มหนำ
สำราญ.
เราถวายผ้าอย่างดีเป็นอันมาก ไม่น้อยนับโกฏิ
ผืน ถวายยานคือช้างที่ประดับแล้ว แด่พระสัมพุทธ -
เจ้า.
เราชั่งกัปปิยภัณฑ์มีประมาณเท่ายานคือช้าง ยัง
จิตของเราอันมั่นคง ให้เต็มด้วยปีติในทานเป็นนิตย์.
พระสิขีพุทธเจ้า ผู้นำเลิศแห่งโลก แม้พระองค์
นั้น ก็ทรงพยากรณ์เราว่า สามสิบเอ็ดกัปนับแต่กัปนี้
ท่านผู้นี้จักเป็นพระพุทธเจ้า.
พระตถาคตออกอภิเนษกรมณ์ จากกรุงกบิลพัสดุ์
อันน่ารื่นรมย์ ฯ ล ฯ จักอยู่ต่อหน้าของท่านผู้นี้.
เราฟังพระดำรัสของพระองค์แล้ว ก็ยิ่งมีจิต
เลื่อมใส จึงอธิษฐานข้อวัตรยิ่งยวดขึ้นไปเพื่อบำเพ็ญ
บารมี 10 ให้บริบูรณ์.


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นิมฺนินิตฺวา ได้แก่ ชั่งเท่าขนาดช้าง
เชือกนั้น. บทว่า กปฺปิยํ ได้แก่ กัปปิยภัณฑ์. สิ่งที่ควรรับสำหรับภิกษุทั้ง

หลาย ชื่อว่ากัปปิยภัณฑ์. บทว่า ปูรยึ มานสํ มยฺหํ ความว่า ยังจิตของ
เราให้เต็มด้วยปีติในทาน ทำให้สามารถเกิดความร่าเริงแก่เรา. บทว่า นิจฺจํ
ทฬฺหมุปฏฺฐิตํ
ความว่า จิตอันตั้งมั่นคงโดยทานเจตนาว่าจะให้ทานเป็น
นิตย์.
พระผู้มีพระภาคเจ้าองค์นั้น ทรงมีพระนครชื่อว่า อรุณวดี พระชนก
พระนามว่า พระเจ้าอรุณวา พระชนนีพระนามว่า พระนางปภาวดี คู่
พระอัครสาวก ชื่อว่า พระอภิภู และ พระสัมภวะ พระพุทธอุปัฏฐาก ชื่อว่า
พระเขมังกร คู่พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระสขิลา และ พระปทุมา โพธิ-
พฤกษ์ชื่อว่า ต้นปุณฑรีกะ คือ มะม่วง พระสรีระสูง 70 ศอก พระรัศมี
แห่งสรีระแผ่ไป 3 โยชน์เป็นนิตย์ พระชนมายุเจ็ดหมื่นปี พระอัครมเหสี
พระนามว่า พระนางสัพพกามา พระโอรสพระนามว่า อตุละ ออก
อภิเนษกรณ์ด้วยานคือช้าง. ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
พระสุขีพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่ ทรงมีพระ
นครชื่อ อรุณวดี พระชนก พระนามว่า พระเจ้าอรุณ
พระชนนี พระนามว่า พระนางปภาวดี.
พระองค์ทรงครองฆราวาสวิสัยอยู่แสนปี ทรงมี
ปราสาทชั้นเยี่ยม 3 หลัง ชื่อว่า สุวัฑฒกะ คิริและ
นารีวาหนะ
มีพระสนมกำนัลสองหมื่นสี่พันนาง ล้วนประดับ
ประดางดงาม มีพระอัครมเหสีพระนามว่า พระนาง
สัพพกามา พระโอรสพระนามว่า อตุละ.
พระผู้สูงสุดในบุรุษ ทรงเห็นนิมิต 4 เสด็จ
ออกอภิเนษกรมณ์ด้วยยานคือช้าง.


1. บาลีเป็นอรุณ 2. บาลีเป็นมขิลา

พระมหาวีระ สิขี ผู้นำเลิศแห่งโลก สูงสุดใน
นรชน อันท้าวมหาพรหมอาราธนาแล้ว ทรงประกาศ
พระธรรมจักร ณ มิคทายวัน
พระสิขีพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่ มีพระอัคร-
สาวกชื่อว่าพระอภิภูและพระสัมภวะ มีพระพุทธอุปัฏ-
ฐาก ชื่อว่าพระเขมังกร.
มีพระอัครสาวิกา ชื่อว่าพระสขิลา และพระปทุมา
โพธิพฤกษ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เรียก
ต้นปุณฑรีกะ.
มีอัครอุปัฏฐากชื่อว่า สิริวัฑฒะ และนันทะ มี
อัครอุปัฏฐายิกาชื่อว่า จิตตา และสุจิตตา.
พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นสูง 70 ศอก เสมือนรูป
ปฏิมาทอง มีมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ.
พระรัศมีวาหนึ่ง แล่นออกจากพระวรกายของ
พระองค์ ทั้งกลางวันกลางคืนไม่ว่างเว้น พระรัศมีทั้ง
หลาย แล่นไปทั้งทิศใหญ่ทิศน้อย 3 โยชน์.
พระชนมายุของพระสิขีพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณยิ่ง
ใหญ่เจ็ดหมื่นปี พระองค์มีพระชนม์ยืนถึงเพียงนั้น
ทรงยังหมู่ชนเป็นอันมากให้ข้ามโอฆะ.
พระองค์ทั้งพระสาวก ทรงยังเมฆคือธรรมให้
ตกลง ยังโลกทั้งเทวโลกให้ชุ่มชื่น ให้ถึงถิ่นอันเกษม
แล้วก็ดับขันธปรินิพพาน.
พระมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ พรั่งพร้อม
ด้วยพระอนุพยัญชนะทั้งนั้นก็อันตรธานไปสิ้น สังขาร
ทั้งปวง ก็ว่างเปล่า แน่แท้.

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปุณฺฑรีโก ได้แก่ ต้นมะม่วง. บทว่า
ตีณิ โยชนโส ปภา ความว่า พระรัศมีทั้งหลายแล่นไป 3 โยชน์. บทว่า
ธมฺมเมฆํ ได้แก่ ฝนคือธรรม. เมฆคือพระพุทธเจ้า ผู้ยังฝนคือธรรมให้
ตกลงมา. บทว่า เตมยิตฺวา ให้ชุ่ม อธิบายว่า รด ด้วยน้ำคือธรรมกถา.
บทว่า เทวเก ได้แก่ ยังสัตว์โลกทั้งเทวโลก. บทว่า เขมนฺตํ ได้แก่
ถิ่นอันเกษม คือพระนิพพาน. บทว่า อนุพฺยญฺชนสมฺปนฺนํ ความว่า พระ
สรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า ประดับด้วยพระมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ
พรั่งพร้อมด้วยพระอนุพยัญชนะ 80 มีพระนขาแดง พระนาสิกโด่ง และ
พระอังคุลีกลมเป็นต้น. ได้ยินว่า พระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธ-
ปรินิพพาน ณ พระวิหารอัสสาราม สีลวตีนคร.
สิขีว โลเก ตปสา ชลิตฺวา
สิขีว เมฆาคมเน นทิตฺวา
สิขีว มเหสินฺธนวิปฺปหีโน
สิขีว สนฺตึ สุคโต คโต โส.

พระสิขีพุทธเจ้า ทรงรุ่งโรจน์ในโลกเหมือนดวง
ไฟ ทรงบันลือในนภากาศเหมือนนกยูง.
พระสิขีพุทธเจ้าทรงละพระมเหสี และทรัพย์
สมบัติ พระองค์ถึงความสงบ เสด็จไปดีแล้วเหมือนไฟ.
ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าสิขี มีพระบรมสารีริกธาตุ เป็นแท่ง
เดียว จึงไม่กระจัดกระจายไป. แต่มนุษย์ชาวชมพูทวีป ช่วยกันสร้างพระสถูป
สำเร็จด้วยรัตนะ 7 งามเสมือนภูเขาหิมะ สูง 3 โยชน์. คำที่เหลือในคาถา
ทั้งหลายทุกแห่ง ชัดแล้วทั้งนั้นแล.
จบพรรณนาวงศ์พระสิขีพุทธเจ้า