เมนู

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า พนฺธนา ความว่า เปลื้องปล่อยซึ่งเทวดา
และมนุษย์จากเครื่องผูกมีกามราคสังโยชน์เป็นต้น. บทว่า มคฺคามคฺคญฺจ
อาจิกฺขิ
ความว่า ทรงบอกปุถุชนที่เหลือว่า ทางนี้คือมัชฌิมาปฏิปทาเว้นจาก
อุจเฉททิฏฐิและสัสสตทิฏฐิ เป็นทางเพื่อบรรลุอมตธรรม การทำตัวให้ลำบาก
เปล่าเป็นต้นนี้มิใช่ทาง. บทว่า อาโลกํ ทสฺสยิตฺวาน ได้แก่ ทรงแสดง
แสงสว่าง คือมรรคญาณ และแสงสว่างคือวิปัสสนาญาณ. บทว่า ลกฺขณญฺจ
กุสุมตํ
ความว่า พระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า บานแล้ว ประดับแล้ว
ด้วยพระลักษณะอันวิจิตรเป็นต้น. คำที่เหลือในคาถาทั้งหลายทุกแห่ง ง่ายทั้ง
นั้นแล.
จบพรรณนาวงศ์พระวิปัสสีพุทธเจ้า

20. วงศ์พระสิขีพุทธเจ้าที่ 20



ว่าด้วยพระประวัติของพระสิขีพุทธเจ้า



[21] ต่อจากสมัยของพระวิปัสสีพุทธเจ้า พระ-
ชินสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สิขี ผู้สูงสุดแห่งสัตว์สอง
เท้า ผู้ไม่มีผู้เสมอ ไม่มีผู้เทียบ.
ทรงย่ำยีกองทัพมาร ทรงบรรลุพระสัมโพธิญาณ
อันสูงสุดแล้ว ทรงประกาศพระธรรมจักรอันเคราะห์
สัตว์ทั้งหลาย.
เมื่อพระสิขีพุทธเจ้าจอมมุนี ทรงประกาศพระ-
ธรรมจักร อภิสมัยครั้งที่ 1 ได้มีแก่สัตว์แสนโกฏิ.
เมื่อพระผู้ประเสริฐแห่งคณะ สูงสุดในนรชน
ทรงแสดงธรรมอื่นอีก อภิสมัยครั้งที่ 2 ได้มีแก่สัตว์
เก้าหมื่นโกฏิ.
เมื่อพระสุขีพุทธเจ้า ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ใน
โลกทั้งเทวโลก อภิสมัยครั้งที่ 3 ได้มีแก่สัตว์แปด
หมื่นโกฏิ.
พระสิขีพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่ มีสันนิบาต
ประชุมพระสาวกขีณาสพ ผู้ไร้มลทิน มีจิตสงบ คงที่
3 ครั้ง.
ประชุมพระสาวกหนึ่งแสน เป็นสันนิบาตครั้งที่
1 ประชุมพระภิกษุแปดหมื่น เป็นสันนิบาตครั้งที่ 2.