เมนู

เราฟังพระดำรัสของพระองค์แล้ว ก็ยิ่งมีจิตเสื่อม
ใส จึงอธิษฐานข้อวัตรยิ่งยวดขึ้นไป เพื่อบำเพ็ญบารมี
10 ให้บริบูรณ์.


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปุญฺญวนฺโต แปลว่า ผู้มีบุญ อธิบายว่า
ผู้มีกองบุญอันสั่งสมไว้แล้ว. บทว่า ชุตินฺธฺโร ได้แก่ ประกอบด้วยรัศมี.
บทว่า เนกานํ นาคโกฏีนํ ก็คือ อเนกาหิ นาคโกฏีหิ พึงเห็นฉัฏฐี
วิภัตติ ใช้ในอรรถตติยาวิภัตติ. บทว่า ปริวาเรตฺวา ได้แก่ แวดล้อมพระผู้มี
พระภาคเจ้า. ทรงแสดงพระองค์ ด้วยคำว่า อหํ. บทว่า วชฺชนฺโต
ได้แก่ บรรเลงประโคม. บทว่า มณีมุตฺตรตนขจิตํ ความว่า ขจิตด้วย
รัตนะต่างชนิดมีแก้วมณีและแก้วมุกดาเป็นต้น. บทว่า สพฺพาภรณวิภูสิตํ
ความว่าประดับด้วยอาภรณ์ทุกอย่าง ที่สำเร็จด้วยรัตนะเช่น รูปสัตว์ร้ายเป็นต้น .
บทว่า สุวณฺณปีฐํ ได้แก่ ตั่งที่สำเร็จด้วยทอง. บทว่า อทาสหํ ตัด
บทเป็น อทาสึ อหํ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าวิปัสสีพระองค์นั้น ทรงมีพระนครชื่อว่า พันธุมดี
พระชนก พระนามว่า พระเจ้าพันธุมา พระชนนีพระนามว่า พระนาง
พันธุมดี
คู่พระอัครสาวก็ชื่อว่า พระขัณฑะ และ พระติสสะ พระพุทธ
อุปัฏฐาก ชื่อว่า พระอโสกะ คู่พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระจันทา และ พระ
จันทมิตตา
โพธิพฤกษ์ชื่อว่า ปาฏลี พระสรีระสูง 80 ศอก พระรัศมีแห่ง
พระสรีระแผ่ไป 7 โยชน์ทุกเวลา พระชนมายุแปดหมื่นปี พระอัครมเหสีของ
พระองค์ พระนามว่า พระนางสุตนู พระโอรสของพระองค์ พระนามว่า
พระสมวัฏฏขันธะ ออกอภิเนษกรมณ์ ด้วยรถเทียมม้า. ด้วยเหตุนั้น
จึงตรัสว่า

พระวิปัสสีพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่ ทรงมี
พระนคร ชื่อพันธุมวดี พระชนกพระนามว่า พระเจ้า
พันธุมา พระชนนีพระนามว่า พระนางพันธุมดี.
พระวิปัสสีพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่ ทรงมี
พระอัครสาวก ชื่อว่าพระขัณฑะ และ พระติสสะ พระ
พุทธอุปัฏฐาก ชื่อว่าพระอโสกะ.
มีพระอัครสาวิกา ชื่อว่าพระจันทาและ พระจันท-
มิตตา โพธิพฤกษ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
เรียกว่า ต้นปาฏลี.
พระวิปัสสีพุทธเจ้า ผู้นำโลก สูง 80 ศอก
พระรัศมีของพระองค์แล่นไปโดยรอบ 7 โยชน์.
ในยุคนั้นมนุษย์มีอายุแปดหมื่นปี พระชนมายุ
ของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นมีพระชนม์ยืนถึงเพียงนั้น
จึงทรงยังหมู่ชนเป็นอันมากให้ข้ามโอฆะ.
พระวิปัสสีพุทธเจ้า ทรงเปลื้องเทวดาและมนุษย์
เป็นอันมากจากเครื่องผูก ทรงบอกทางและมิใช่ทาง
กะพวกปุถุชนที่เหลือ.
พระองค์และพระสาวก สำแดงแสงสว่าง ทรง
แสดงอมตบท รุ่งโรจน์แล้ว ก็ดับขันธปรินิพพาน
เหมือนกองไฟโพลงแล้วก็ดับ ฉะนั้น.
พระวรฤทธิ์อันเลิศ พระบุญญาธิการอันประเสริฐ
พระวรลักษณ์อันบานเต็มที่แล้ว ทั้งนั้น ก็อันตรธาน
ไปสิ้น สังขารทั้งปวงก็ว่างเปล่า แน่แท้.

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า พนฺธนา ความว่า เปลื้องปล่อยซึ่งเทวดา
และมนุษย์จากเครื่องผูกมีกามราคสังโยชน์เป็นต้น. บทว่า มคฺคามคฺคญฺจ
อาจิกฺขิ
ความว่า ทรงบอกปุถุชนที่เหลือว่า ทางนี้คือมัชฌิมาปฏิปทาเว้นจาก
อุจเฉททิฏฐิและสัสสตทิฏฐิ เป็นทางเพื่อบรรลุอมตธรรม การทำตัวให้ลำบาก
เปล่าเป็นต้นนี้มิใช่ทาง. บทว่า อาโลกํ ทสฺสยิตฺวาน ได้แก่ ทรงแสดง
แสงสว่าง คือมรรคญาณ และแสงสว่างคือวิปัสสนาญาณ. บทว่า ลกฺขณญฺจ
กุสุมตํ
ความว่า พระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้า บานแล้ว ประดับแล้ว
ด้วยพระลักษณะอันวิจิตรเป็นต้น. คำที่เหลือในคาถาทั้งหลายทุกแห่ง ง่ายทั้ง
นั้นแล.
จบพรรณนาวงศ์พระวิปัสสีพุทธเจ้า