เมนู

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สุฏฺฐิรตนํ ความว่า สูงจรดท้องฟ้า
ประมาณ 60 ศอก. บทว่า กญฺจนคฺฆิยสงฺกาโส ได้แก่ น่าดูเสมอรูปปฏิ-
มาที่สำเร็จด้วยทอง วิจิตรด้วยรัตนะต่างๆ. บทว่า ทสสหสฺสี วิโรจต
แปลว่า รุ่งโรจน์ในหมื่นโลกธาตุ. บทว่า วิปุลํ ได้แก่ พระรักมีอันโอฬาร.
บทว่า ปุปฺผาเปตฺวาน ความว่า ทำให้บานแล้วด้วยดอกไม้ คือฌานอภิญญา
มรรคผลและสมาบัติ ถึงความโสภาคย์อย่างยิ่ง. บทว่า วิลาเสตฺวา ได้
เยื้องกรายเล่นแล้ว. บทว่า วรสมาปตฺติยา ได้แก่ ด้วยสมาบัติและอภิญญา
อันเป็นโลกิยะและโลกุตระ. บทว่า นิพฺพุโต ได้แก่ ปรินิพพานแล้ว
ด้วยอนุปาทาปรินิพพาน.
ได้ยินว่า พระสิทธัตถศาสดา เสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ อโนม-
ราชอุทยาน กรุงกาญจนเวฬุ
ณ พระราชอุทยานนั้นนั่นเอง เขาช่วยกัน
สร้างพระเจดีย์สำเร็จด้วยรัตนะ สูง 4 โยชน์ สำหรับพระองค์แล ในคาถา
ทั้งหลายที่เหลือ ก็ชัดเจนแล้วทั้งนั้นแล.
จบพรรณนาวงศ์พระสิทธัตถพุทธเจ้า

17. วงศ์พระติสสพุทธเจ้าที่ 17



ว่าด้วยพระประวัติของพระติสสพุทธเจ้า



[18] ต่อจากสมัยของพระสิทธัตถพุทธเจ้า พระ-
ติสสพุทธเจ้า ผู้ไม่มีผู้เสมอ ไม่มีผู้เทียบ มีศีล ไม่มีที่
สุด มีพระบริวารยศหาประมาณมิได้ เป็นพระผู้นำ
เลิศแห่งโลก.
พระมหาวีระผู้มีจักษุ ทรงกำจัดอนธการคือความ
มืด ทรงยังโลกพร้อมทั้งเทวโลกให้สว่างแล้ว ทรงมี
พระกรุณา ทรงอุบัติแล้วในโลก.
พระติสสพุทธเจ้าแม้พระองค์นั้น ทรงมีพระวร-
ฤทธิ์ไม่มีใครเทียบได้ มีศีลและสมาธิที่ไม่มีอะไรเทียบ
ทรงถึงฝั่งในธรรมทั้งปวง ประกาศพระธรรมจักร.
พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงประกาศพระวาจา
อันสะอาดในหมื่นโลกธาตุ สัตว์ร้อยโกฏิตรัสรู้ ในการ
แสดงครั้งที่ 1.
อภิสมัยครั้งที่ 2 ได้มีแก่สัตว์เก้าสิบโกฏิ ใน
อภิสมัยครั้งที่ 3 สัตว์หกสิบโกฏิตรัสรู้ ในครั้งนั้น
พระติสสพุทธเจ้าทรงเปลื้องสัตว์ คือ มนุษย์และเทวดา
จากเครื่องผูก [สังโยชน์].