เมนู

โกฏิ ให้ประทับในสุรเสนวิหาร เลี้ยงดูด้วยผลชมพู ให้ทรงอิ่มหนำสำราญ
ลำดับนั้น พระศาสดาเสวยผลชมพูนั้นแล้ว ทรงพยากรณ์ว่า ในที่สุดเก้าสิบสี่กัป
นับแต่กัปนี้ จักเป็นพระพุทธเจ้า พระนามว่าโคตมะ. ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
สมัยนั้น เราเป็นดาบสชื่อมังคละ มีเดชสูง อัน
ใครๆ เข้าพบได้ยาก ตั้งมั่นด้วยกำลังแห่งอภิญญา.
เรานำผลชมพูมาจากต้นชมพู ได้ถวายแด่พระ-
สิทธัตถพุทธเจ้า พระสัมพุทธเจ้าทรงรับแล้ว ตรัส
พระดำรัสดังนี้ว่า
ท่านทั้งหลายจงดูชฎิลดาบสผู้มีตบะสูงผู้นี้ เก้า
สิบสีกัปนับแต่กัปนี้ ดาบสผู้นี้จักเป็นพระพุทธเจ้า
พระตถาคตทรงตั้งความเพียร ฯ ล ฯ จักอยู่ต่อ
หน้าของท่านผู้นี้.
เราฟังพระดำรัสของพระองค์แล้ว ก็ยิ่งเลื่อมใส
จึงอธิษฐานข้อวัตรยิ่งยวดขึ้นไป เพื่อบำเพ็ญบารมี 10
ให้บริบูรณ์.


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ทุปฺปสโห แปลว่า อันใครๆ เข้าหา
ได้ยาก หรือปาฐะก็อย่างนั้นเหมือนกัน.
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงมีพระนครชื่อ เวภาระ พระชนก
พระนามว่า พระเจ้าอุเทน พระนามว่า พระเจ้าชัยเสน บ้างก็มี พระชนนี้
พระนามว่า สุผัสสา คู่พระอัครสาวก ชื่อว่า พระสัมพละ และพระสุมิตตะ
พระพุทธอุปัฏฐากชื่อว่า พระเรวตะ คู่พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระสีวลา และ

พระสุรามา พระชนมายุแสนปี พระอัครมเหสีพระนามว่า พระนาง
โสมนัสสา
พระโอรสพระนาม อนุปมะ ออกอภิเนษกรมณ์ด้วยพระวอทอง
ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
พระสิทธัตถพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่ ทรงมี
พระนครชื่อเวภาระ พระชนก พระนามว่า พระเจ้า
อุเทน พระชนนีพระนามว่า พระนางสุผัสสา.
พระสิทธัตถพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่ มีพระ-
อัครสาวกชื่อว่า พระสัมพละ และพระสุมิตตะ พระ -
พุทธอุปัฏฐาก ชื่อว่าพระเรวตะ.
มีพระอัครสาวิกา ชื่อว่าพระสีวลา และพระสุรามา
โพธิพฤกษ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เรียก
กณิการะ ต้นกรรณิการ์.
พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น สูงขึ้นสู่ฟ้า 60 ศอก
เสมือนรูปปฏิมาทอง จึงรุ่งโรจน์ในหมื่นโลกธาตุ.
พระพุทธเจ้า ผู้เสมอด้วยพระพุทธเจ้า ผู้ไม่มีผู้
เสมอ อันใครชั่งไม่ได้ เปรียบไม่ได้ ผู้มีจักษุพระองค์
นั้น ทรงดำรงอยู่ในโลกแสนปี.
พระองค์ทั้งพระสาวก ทรงแสดงพระรัศมีอัน
ไพบูลย์ ยังสาวกทั้งหลายให้บานแล้ว ให้งดงามแล้ว
ด้วยสมาบัติ อันประเสริฐแล้วก็เสด็จดับขันธปรินิพ
พาน.

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สุฏฺฐิรตนํ ความว่า สูงจรดท้องฟ้า
ประมาณ 60 ศอก. บทว่า กญฺจนคฺฆิยสงฺกาโส ได้แก่ น่าดูเสมอรูปปฏิ-
มาที่สำเร็จด้วยทอง วิจิตรด้วยรัตนะต่างๆ. บทว่า ทสสหสฺสี วิโรจต
แปลว่า รุ่งโรจน์ในหมื่นโลกธาตุ. บทว่า วิปุลํ ได้แก่ พระรักมีอันโอฬาร.
บทว่า ปุปฺผาเปตฺวาน ความว่า ทำให้บานแล้วด้วยดอกไม้ คือฌานอภิญญา
มรรคผลและสมาบัติ ถึงความโสภาคย์อย่างยิ่ง. บทว่า วิลาเสตฺวา ได้
เยื้องกรายเล่นแล้ว. บทว่า วรสมาปตฺติยา ได้แก่ ด้วยสมาบัติและอภิญญา
อันเป็นโลกิยะและโลกุตระ. บทว่า นิพฺพุโต ได้แก่ ปรินิพพานแล้ว
ด้วยอนุปาทาปรินิพพาน.
ได้ยินว่า พระสิทธัตถศาสดา เสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ อโนม-
ราชอุทยาน กรุงกาญจนเวฬุ
ณ พระราชอุทยานนั้นนั่นเอง เขาช่วยกัน
สร้างพระเจดีย์สำเร็จด้วยรัตนะ สูง 4 โยชน์ สำหรับพระองค์แล ในคาถา
ทั้งหลายที่เหลือ ก็ชัดเจนแล้วทั้งนั้นแล.
จบพรรณนาวงศ์พระสิทธัตถพุทธเจ้า