เมนู

ครั้งพระพุทธเจ้า ผู้เสมอด้วยพระพุทธเจ้า ผู้ไม่
มีผู้เสมอ เสด็จจำพรรษา ณ เวภารบรรพต ภิกษุเก้า
หมื่นโกฏิประชุมกัน เป็นสันนิบาตครั้งที่ 2.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้มีพระคุณ ผู้เป็นนาถะของ 3 โลก ทรง
ทำการเปลื้องมหาชนจากเครื่องผูก เสด็จจาริกไปตามชนบท ภิกษุแปดหมื่น
โกฏิประชุมกัน ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จจาริกไปอีก ภิกษุที่ออก
บวชจากคามนิคมและรัฐแปดหมื่นโกฏิประชุมกันเป็น
สันนิบาตครั้งที่ 3.


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า คามนิคมรฏฺฐโต ก็คือ คามนิคม-
รฏฺเฐหิ
จากคามนิคมรัฐชนบท หรือปาฐะก็อย่างนี้เหมือนกัน ปาฐะนั้น
ความว่า ผู้ออกบวชจากคามนิคมและรัฐทั้งหลาย.
ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์ของเรา เป็นผู้ครองรัฐใหญ่ชื่อว่า ชฎิล มีทรัพย์
หลายโกฏิ ได้ถวายทานอย่างดีพร้อมทั้งจีวร แด่พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็น
ประธาน เสร็จอนุโมทนาภัตทาน พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ก็ทรงพยากรณ์
เราว่า ในอนาคตกาล จักเป็นพระพุทธเจ้าพระนามว่าโคตมะ ในที่สุดแสนกัป
ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
สมัยนั้น เราเป็นผู้ครองรัฐ ชื่อชฎิล ได้ถวาย
ภัตตาหารพร้อมทั้งผ้า แด่พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็น
ประธาน.

พระพุทธเจ้าแม้พระองค์นั้น ประทับนั่งท่ามกลาง
สงฆ์ ทรงพยากรณ์เราว่า ท่านผู้นี้จักเป็นพระพุทธเจ้า
ในแสนกัปนับแต่กัปนี้ไป.
พระตถาคต ตั้งความเพียร ฯ ล ฯ จักอยู่ต่อหน้า
ของท่านผู้นี้.
เราฟังพระดำรัสของพระองค์แล้ว ก็อธิษฐาน
ข้อวัตรยิ่งยวดขึ้น ได้ทำความเพียรมั่นคงอย่างยิ่ง เพื่อ
บำเพ็ญบารมี 10 ให้บริบูรณ์.


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สมฺพุทฺธปฺปมุขํ สงฺฆํ ก็คือ พุทฺธปฺ-
ปมุขสฺส สงฺฆสฺส
แด่พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ทุติยาวิภัตติ
ลงในอรรถฉัฏฐีวิภัตติ. บทว่า สภตฺตํ ทุสฺสมทาสหํ ความว่า เราได้
ถวายภัตตาหารพร้อมด้วยจีวร. บทว่า อุคฺคทฬฺหํ แปลว่า มั่นคงยิ่ง. บทว่า
ธิตึ ความว่า ได้ทำความเพียร.
ครั้งพระผู้มีพระภาคเจ้า ปทุมุตตระ ไม่มีพวกเดียรถีย์ เทวดาและ
มนุษย์ทุกคนถึงพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเป็นสรณะ ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
ครั้งนั้น พวกเดียรถีย์ ผู้มีใจผัดปกติ มีใจเสีย
ถูกกำจัดมานะหมด บุรุษบางพวกของเดียรถีย์เหล่านั้น
ไม่ยอมบำรุงบำเรอ ก็ขับไล่เดียรถีย์เหล่านั้น ออกไป
จากแว่นแคว้น.
ทุกคนมาประชุมกันในที่นั้น ก็เข้าไปที่สำนัก
ของพระพุทธเจ้า ทูลวอนว่า ข้าแต่พระมหาวีระ ขอ