เมนู

9. วงศ์พระนารทพุทธเจ้าที่ 9



ว่าด้วยพระประวัติของพระนารทพุทธเจ้า



[10] ต่อจากสมัยของพระปทุมพุทธเจ้า พระ-
สมัยพุทธเจ้าพระนามว่า นารทะ ผู้เป็นยอดแห่งสัตว์
สองเท้า ไม่มีผู้เสมอ ไม่มีผู้เปรียบ.
พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระเชษฐโอรส
ที่น่าเอ็นดูของพระเจ้าจักรพรรดิ ทรงสวมอาภรณ์มณี
เสด็จเข้าไปยังพระราชอุทยาน.
ในพระราชอุทยานนั้น มีต้นไม้ใหญ่ไพศาลงาม
สะอาดสะอ้าน ถึงต้นไม้นั้นแล้ว ประทับนั่งภายใต้
ต้นมหาโสณะ [ต้นอ้อยช่างใหญ่].
ณ ที่นั้น ญาณอันประเสริฐ ไม่มีที่สุด คมดุจ
วชิระ ก็เกิด ทรงพิจารณา ความเกิด ความดับแห่ง
สังขารทั้งหลาย ด้วยพระญาณนั้น.
ณ ที่นั้น ทรงกำจัดกิเลสทั้งหลายไม่เหลือเลย
ทรงบรรลุพระโพธิญาณ และพระพุทธญาณ 14 สิ้น
เชิง.
ครั้น ทรงบรรลุพระโพธิญาณแล้ว ก็ทรงประกาศ
พระธรรมจักร อภิสมัยครั้งที่ 1 ได้มีแก่สัตว์แสนโกฏิ.

พระมหามุนีทรงฝึกทรมาน พญานาค ชื่อมหา
โทณะ เมื่อทรงแสดงแก่โลกพร้อมทั้งเทวโลก ก็ได้
ทรงทำปาฏิหาริย์ในครั้งนั้น.
ครั้งนั้น เทวดาและมนุษย์เก้าหมื่นโกฏิ ข้ามพ้น
ความสงสัยทั้งปวง ในการประกาศธรรมนั้น.
สมัยพระมหาวีระ ทรงโอวาทพระโอรสของ
พระองค์ อภิสมัยครั้งที่ 3 ได้มีแก่สัตว์แปดหมื่นโกฏิ.
พระนารทพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่ ทรงมี
สันนิบาตประชุมสาวก 3 ครั้ง ครั้งที่ เป็นการ
ประชุมสาวกแสนโกฏิ.
ครั้งพระพุทธเจ้า ทรงประกาศพระพุทธคุณพร้อม
ทั้งเหตุ สาวกเก้าหมื่นโกฏิ ผู้ไร้มลทินก็ประชุมกัน.
ครั้งพญานาคชื่อว่าเวโรจนะ ถวายทานแด่พระ-
ศาสดา พระชินบุตรแปดล้านก็ประชุมกัน.
สมัยนั้น เราเป็นชฎิลมีตบะสูง ถึงฝั่งอภิญญา 5
ท่องเที่ยวไปในอากาศ.
แม้ครั้งนั้น เราก็เลี้ยงดูพระนารทพุทธเจ้า ผู้
เสมอด้วยพระพุทธเจ้าผู้ที่ไม่มีผู้เสมอ พร้อมทั้งพระ-
สงฆ์ ทั้งบริวารชนให้อิ่มหนำสำราญด้วยข้าว น้ำ บูชา
ด้วยจันทน์แดง.
ครั้งนั้น พระนารทพุทธเจ้า ผู้นำโลกแม้พระ-
องค์นั้น ก็ทรงพยากรณ์เราว่า จักเป็นพระพุทธเจ้าใน
กัปที่หาประมาณมิได้ นับแต่กัปนี้ไป.

พระตถาคต ออกอภิเนษกรมณ์จากกรุงกบิลพัศดุ์
ที่น่ารื่นรมย์ ตั้งความเพียรทำทุกกรกิริยา.
พระตถาคต ประทับนั่ง ณ โคนต้นอชปาลนิโครธ
รับข้าวมธุปายาส ณ ที่นั้นแล้วเข้าไปยังแม่น้ำเนรัญชรา.
พระชินเจ้าพระองค์นั้น เสวยข้าวมธุปายาส ณ
ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เสด็จดำเนินตามทางอัน ที่เขา
จัดแต่งไว้ ไปที่โคนโพธิพฤกษ์.
แต่นั้น พระผู้มีพระยศใหญ่ ทรงทำประทักษิณ
โพธิมัณฑสถานอันยอดเยี่ยม ตรัสรู้ ณ โคนโพธิพฤกษ์
ชื่อต้นอัสสัตถะ.
ท่านผู้นี้ จักมีพระชนนี พระนามว่า พระนาง
มายา พระชนกพระนามว่าพระเจ้าสุทโธทนะ ท่านผู้นี้
จักมีพระนามว่า โคตมะ.
จักมีพระอัครสาวก ชื่อว่า พระโกลิตะ และพระ-
อุปติสสะ ผู้ไม่มีอาสวะ ปราศจากราคะ มีจิตสงบ
ตั้งมั่น พระพุทธอุปัฏฐากชื่อว่า พระอานันทะ จักบำรุง
พระชินเจ้าผู้นี้.
จักมีพระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระเขมา และ พระ-
อุบลวรรณนา ผู้ไม่มีอาสวะ ปราศจากราคะ มีจิต
สงบ ตั้งมั่น.
โพธิพฤกษ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
เรียกว่าต้นอัสสัตถะ จักมีอัครอุปัฏฐาก ชื่อจิตตะ และ
หัตถะอาฬวกะ.

จักมีอัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นันทมาตา และอุต
ตรา พระโคดมผู้มีพระยศพระองค์นั้น จักมีพระชน-
มายุ 100 ปี.
มนุษย์แลเทวดาทั้งหลาย ฟังพระดำรัสนี้ของ
พระนารทพุทธเจ้า ผู้ไม่มีผู้เสมอ ผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่
ก็ปลาบปลื้มใจว่า ท่านผู้นี้เป็นหน่อพุทธางกูร.
หมื่นโลกธาตุ ทั้งเทวโลก ก็พากันโห่ร้อง ปรบ
มือ หัวร่อร่าเริง ประคองอัญชลีนมัสการ กล่าวว่า
ผิว่า พวกเราจักพลาด คำสั่งสอนของพระโลก-
นาถพระองค์นี้ไซร้ ในอนาคตกาล พวกเราก็จักอยู่
ต่อหน้าของท่านผู้นี้.
มนุษย์ทั้งหลาย เมื่อจะข้ามแม่น้ำ พลาดท่าน้ำ
ข้างหน้า ก็ถือเอาท่าน้ำข้างหลัง ข้ามแม่น้ำใหญ่
ฉันใด.
พวกเราทั้งหมด ผิว่า ผ่านพ้นพระพุทธชินเจ้า
พระองค์นี้ไซร้ ในอนาคตกาล พวกเราก็จักอยู่ต่อ
หน้าของท่านผู้นี้ ฉันนั้นเหมือนกัน.
เราฟังพระดำรัสของพระองค์แล้ว ก็ยิ่งร่าเริงใจ
อธิษฐานข้อวัตรยิ่งยวดขึ้นไป เพื่อบำเพ็ญบารมี 10
ให้บริบูรณ์.
พระนารทพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่มีพระนคร
ชื่อว่าธัญญวดี พระชนก พระนามว่า พระเจ้าสุเทวะ
พระชนนีพระนามว่า พระนางอโนมา.

พระองค์ทรงครองฆราวาสวิสัยเก้าพันปี มีปรา-
สาทชั้นเยี่ยม 3 หลังชื่อว่า ชิตะ วิชิตะ และอภิรามะ.
มีพระสนมนารี ที่ประดับกายงามสี่หมื่นสามพัน
นาง พระอัครมเหสีพระนามว่า วิชิตเสนา พระโอรส
พระนามว่า นันทุตตระ.
พระยอดบุรุษทรงเห็นนิมิต 4 เสด็จออกอภิ-
เนษกรมณ์ โดยดำเนินด้วยพระบาท ทรงบำเพ็ญเพียร
7 วัน.
พระมหาวีระนารทะ ผู้นำโลก ผู้สงบ อันท้าว
มหาพรหมอาราธนาแล้ว ทรงประกาศพระธรรมจักร
ณ ธนัญชัยราชอุทยาน อันสูงสุด.
พระอัครสาวก ชื่อ พระภัททสาละ และ พระ-
ชิตมิตตะ พระพุทธอุปัฏฐาก ชื่อว่า วาเสฏฐะ.
พระอัครสาวิกา ชื่อ พระอุตตรา และพระผัคคุนี
โพธิพฤกษ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เรียกว่า
ต้นมหาโสณะ.
อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า อุคครินทะ และ วสภะ อัคร-
อุปัฏฐายิกา ชื่อ อินทวรี และ คัณฑี.
พระมหามุนี ทรงสูง 88 ศอก เช่นเดียวกับรูป
ปฏิมาทอง หมื่นโลกธาตุก็เจิดจ้า.
พระรัศมีวาหนึ่ง แล่นออกจากพระวรกายของ
พระองค์ไปทั้งทิศน้อยทิศใหญ่ แผ่ไปโยชน์หนึ่ง ทั้ง
กลางวันกลางคืน ไม่มีระหว่างทุกเมื่อ.

สมัยนั้น ชนบางพวกไม่ยังคบเพลิง และดวง
ประทีปให้ลุกโพลงไปรอบๆ โยชน์หนึ่ง เพราะพระ-
พุทธรัศมีทั้งหลายครอบไว้.
ในยุคนั้น มนุษย์มีอายุเก้าหมื่นปี พระนารท
พุทธเจ้าพระองค์นั้น เมื่อทรงมีพระชนม์ยืนถึงเพียงนั้น
ก็ยังหมู่ชนเป็นอันมากให้ข้ามโอฆสงสาร.
ท้องฟ้างามวิจิตร ด้วยดวงดาวทั้งหลาย ฉันใด
พระศาสนาของพระองค์ก็งดงาม ด้วยพระอรหันต์ทั้ง
หลาย ฉันนั้นเหมือนกัน.
พระนราสภพระองค์นั้น ทรงสร้างสะพานธรรม
ไว้มั่นคง เพื่อยังผู้ปฏิบัติที่เหลือให้ข้ามกระแสสังสาร-
วัฏ แล้วเสด็จดับขันธปรินิพพาน.
พระพุทธเจ้า ผู้เสมอด้วยพระพุทธเจ้า ผู้ที่ไม่มีผู้
เสมอพระองค์นั้นก็ดี ทั้งนั้นก็อันตรธานไปสิ้น สังขาร
ทั้งปวงก็ว่างเปล่า แน่แท้.
พระนารทพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นพระชินะ ผู้ประ-
เสริฐ เสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ กรุงสุทัสสนะ
พระสถูปอันประเสริฐ สูง 4 โยชน์ ก็อยู่ ณ ที่นั้นแล.
จบวงศ์นารทพุทธเจ้าที่ 9

พรรณนาวงศ์พระนารทพุทธเจ้าที่ 9



เมื่อพระปทุมพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว ศาสนาของพระองค์ก็อันตร-
ธานไปแล้ว มนุษย์ทั้งหลายมีอายุแสนปี ลดลงโดยลำดับ จนมีอายุสิบปี
แล้วก็เพิ่มขึ้นอีก เป็นอายุอสงไขยหนึ่ง แล้วก็ลดลงเหลือเก้าหมื่นปี. ครั้งนั้น
พระศาสดายอดนรสัตว์พระนามว่า นารทะ ผู้ทรงกำลัง 10 มีวิชชา 3 ผู้แกล้ว
กล้าด้วยเวสารัชชญาณ 4 ผู้ประทานวิมุตติสาร อุบัติขึ้นในโลก. พระองค์ทรง
บำเพ็ญบารมีมา สี่อสงไขยแสนกัป ทรงบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต จุติจากนั้น
แล้ว ก็ทรงถือปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระนางอโนมาเทวี ผู้มีพระโฉมไม่มีที่
เปรียบพระอัครมเหสีในราชสกุล พระเจ้าสุเทวะ วาสุเทพแห่งวีริยรัฐของ
พระองค์ กรุงธัญญวดี ครบทศมาส พระองค์ก็ประสูติจากพระครรภ์พระชนนี
ณ ธนัญชัยราชอุทยาน. ในวันเฉลิมพระนาม เมื่อกำลังเฉลิมพระนาม เครื่อง
อาภรณ์ทั้งหลายที่สมควรเหมาะแก่การใช้สำหรับมนุษย์ทั้งหลายทั่วชมพูทวีป ก็
หล่นจากต้นกัลปพฤกษ์เป็นต้นทางอากาศ ด้วยเหตุนั้น เขาจึงถวายเครื่อง
อาภรณ์ทั้งหลายที่สมควรสำหรับนรชนทั้งหลายแต่พระองค์ เพราะฉะนั้นพวก
โหรและพระประยูรญาติทั้งหลายจึงเฉลิมพระนามว่า นารทะ.
พระองค์ครองฆราวาสวิสัยอยู่เก้าพันปี. มีปราสาท 3 หลังเหมาะฤดู
ทั้ง 3 ชื่อว่า วิชิตาวี วิชิตาวี และวิชิตาภิรามะ พระชนกชนนีได้ทรงทำขัตติย-
กัญญาผู้มีบุญอย่างยิ่งพระนามว่า วิชิตเสนา ผู้ถึงพร้อมด้วยสกุลศีลาจารวัตร
และรูปสมบัติให้เป็นอัครมเหสีแก่นารทกุมารนั้น. พระสนมนารี จำนวนแสน
สองหมื่นนาง มีพระนางวิชิตเสนานั้นเป็นประธาน เมื่อพระนันทุตตรกุมาร