เมนู

เราฟังพระดำรัสของพระองค์แล้ว ก็ยิ่งเลื่อมใส
อธิษฐานข้อวัตรยิ่งยวดขึ้นไป เพื่อบำเพ็ญบารมีให้
บริบูรณ์.


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปวิเวกมนุพฺรูหนฺตํ ได้แก่ ทรงเข้า
นิโรธสมาบัติ. บทว่า ปทกฺขิณํ ได้แก่ ทำประทักษิณ 3 ครั้ง. บทว่า
อภินาทิตฺวา ได้แก่ บันลือสีหนาท 3 ครั้ง. บทว่า อุปฏฺฐหํ แปลว่า
บำรุง. อีกอย่างหนึ่ง ปาฐะก็อย่างนี้เหมือนกัน. บทว่า วรสมาปตฺติยา ได้แก่
ออกจากนิโรธสมาบัติ. บทว่า มนสา จินฺตยิตฺวาน ความว่า ทรงพระดำริ
ทางพระหฤทัยว่า ภิกษุทั้งหมดจงมาที่นี้. บทว่า สมานยิ แปลว่า นำมา
แล้ว.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ปทุมะ พระองค์นั้น ทรงมีพระนคร ชื่อว่า
จัมปกะ พระชนกพระนามว่า พระเจ้าอสมะ พระชนนีพระนามว่า พระ-
นางอสมา
คู่พระอัครสาวกชื่อว่า พระสาละ และ พระอุปสาละ. พุทธ-
อุปัฏฐาก ชื่อว่า พระวรุณะ คู่พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระราธา และพระ
สุราธา. โพธิพฤกษ์ ชื่อว่า ต้นมหาโสณะ อ้อยช้างใหญ่. พระสรีระ
สูง 58 ศอก พระชนมายุแสนปี. พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางอุตตรา
ผู้ยอดเยี่ยมด้วยคุณมีพระรูปเป็นต้น พระโอรสของพระองค์น่ารื่นรมย์ยิ่ง พระ-
นามว่า พระรัมมกุมาร. ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
พระปทุมพุทธเจ้าผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่ มีพระนคร
ชื่อว่าจัมปกะ พระชนกพระนามว่า พระเจ้าอสมะ
พระชนนีพระนามว่า พระนางอสมา.

พระปทุมพุทธเจ้า ผู้แสวงคุณยิ่งใหญ่มีพระอัคร
สาวก ชื่อว่า พระสาละ และ พระอุปสาละ พระพุทธ-
อุปัฏฐาก ชื่อว่า วรุณะ.
พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระราชา และพระสุราธา
โพธิพฤกษ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เรียก
ว่าต้นมหาโสณะ.
พระมหามุนี ทรงสูง 58 ศอก พระรัศมีของ
พระองค์ไม่มีอะไรเสมอ แล่นออกไปทุกทิศ.
แสงจันทร์ แสงอาทิตย์ แสงรัตนะ แสงไฟ
แสงมณี แสงเหล่านั้น พอถึงพระรัศมีของพระชิน-
พุทธเจ้าอันสูงสุด ก็ถูกกำจัดไปสิ้น.
ในยุคนั้น มนุษย์มีอายุแสนปี พระปทุมพุทธ-
เจ้าพระองค์นั้น ทรงมีพระชนม์ยืนถึงเพียงนั้น จึงทรง
ยังหมู่ชนเป็นอันมากให้ข้ามโอฆสงสาร.
พระองค์ทรงพระสาวก ยังสัตว์ทั้งหลายที่ใจอัน
กุศลอบรมให้แก่กล้าแล้วให้ตรัสรู้ ไม่เหลือเลย ส่วนที่
เหลือ ก็ทรงพร่ำสอนแล้วเสด็จดับขันธ์ ปรินิพพาน.
พระองค์ทรงละสังขารทั้งปวง เหมือนงูละคราบ
เก่า เหมือนต้นไม้สลัดใบเก่า แล้วดับขันธปรินิพพาน
เหมือนดวงไฟ.


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า รตนคฺคิมณิปฺปภา ได้แก่ แสงรัตนะ
แสงไฟ และ แสงแก้วมณี. บทว่า หตา ได้แก่ ถูกครองงำ. บทว่า ชิน-