เวทิยการกเถราปทานที่ 9 (449)ว่าด้วยผลแห่งการถวายไพรที[39] เราได้สร้างไพรทีอย่างสวยงาม ไว้ที่โพธิพฤกษ์ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ซึ่งเป็นไม้สูงสุดกว่าไม้ทั้งหลาย แล้ว ยังจิตของตนให้เลื่อมใส เครื่องใช้สอยหลายชนิดเลิศโอฬาร ทั้งที่ ทำเสร็จและยังทำไม่เสร็จ ตกลงมาจากอากาศ นี้เป็นผลแห่งไพรที ในสงความที่สองฝ่ายประชิดกัน อันน่า กลัว เมื่อเราเข้าไป ก็ไม่พบสิ่งที่น่าขลาดกลัว เลย นี้เป็นผลแห่งไพรที วิมานอันงดงามและที่นอนอันล้นค่า เกิด ขึ้นดังจะรู้ความดำริของเรา นี้เป็นผลแห่งไพรที ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้ทำไพรทีใด ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่ง ไพรที เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน ของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระเวทิยการกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ ฉะนี้แล. จบเวทิยการกเถราปทาน
โพธิฆรการกเถราปทานที่ 10 (450)ว่าด้วยผลแห่งการสร้างเรือนไม้โพธิ์[40] เรามีจิตเลื่อมใสมีใจโสมนัส ได้ใช้ คนทำเรือนไม้โพธิ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็น ใหญ่กว่าสัตว์ผู้คงที่ พระนามว่าสิทธัตถะ เราเข้าถึงสวรรค์ชั้นดุสิต อยู่ในเรือนแก้ว หนาว ร้อน หรือลม มิได้ถูกต้องตัวเราเลย ในกัปที่ 64 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้า จักรพรรดิ วิสสุกรรมเทพบุตรได้เนรมิตนครชื่อ กาสิกะ ยาว 10โยชน์ กว้าง 8 โยชน์ให้เรา ใน นครนั้นไม่มีไม้ เครือเถา และดินเหนียวเลย วิสสุกรรมเทพบุตรเนรมิตปราสาทชื่อ มงคล ยาวโยชน์หนึ่ง กว้างครึ่งโยชน์ ให้เรา เสาปราสาท 84,000 ต้น ล้วนเป็นทองคำ พื้นสำเร็จด้วยแก้วมณี หลังคาเป็นเงิน เรือนสำเร็จด้วยทองนี้ เราได้อยู่ครอบ ครองมาแล้ว นี้เป็นผลแห่งการให้เรือนเป็นทาน เราได้เสวยผลทั้งปวงนั้น ในภพทั้งที่เป็น ของเทวดาและมนุษย์ วันนี้เราบรรลุนิพพานอัน เป็นบทสงบระงับ ไม่มีบทใดจะยิ่งกว่า |