เมนู

หม่อนฉันมีญาณอันปราศจากมลทิน บริ-
สุทธิ์ในอรรถะ ธรรมะ นิรุตติ และปฏิภาณ
เพราะอำนาจพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด
หม่อมฉันมีปัญญามากเพราะภาวนา มี
สุตะเพราะพาหุสัจจะ เกิดในสกุลต่ำเพราะมานะ
แต่มิได้มีกุศลกรรมวิบัติไปเลย
ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้า ดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระปุณณิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบปุณณิกาเถรีอปทาน

อัมพปาลีเถรีอปทานที่ 9 (39)


ว่าด้วยบุพจริยาของพระอัมพปาลีเถรี


[179 ] ดิฉันเกิดในสกุลกษัตริย์ เป็น
ภคินีแห่งพระมหามุนีพระนามว่า ปุสสะ ผู้มี
พระรัศมีงามรุ่งเรือง มีธรรมดังว่าเทริดดอกไม้
บนศีรษะ
ดิฉันได้ฟังธรรมของพระองค์แล้วมีจิต
เลื่อมใสถวายมหาทานแล้ว ปรารถนาซึ่งรูปสมบัติ
ในกัปที่ 31 แต่ภัทรกัปนี้ พระพิชิตมาร
พระนามว่าสิขี ผู้เป็นนายกชั้นเลิศของโลก ทรง

ยังโลกให้รุ่งเรือง เป็นสรณะในไตรโลกเสด็จ
อุบัติขึ้นแล้ว
ครั้งนั้น ดิฉันเกิดในสกุลพราหมณ์ใน
เมืองอรุณอันน่ารื่นรมย์ โกรธแล้ว ด่าภิกษุณี
องค์หนึ่ง ผู้มีจิตพ้นแล้วจากกิเลสว่า ท่านเป็น
หญิงแพศยา ประพฤติอนาจาร ประทุษร้าย
พุทธศาสนา ครั้นด่าอย่างนี้แล้ว ดิฉันต้องไป
สู่นรกอันร้ายกาจ เพียบพร้อมไปด้วยมหันต์ทุกข์
เพราะกรรมอันลามกนั้น
เคลื่อนจากนรกนั้นแล้วมาเกิดในหมู่
มนุษย์เป็นผู้มีธรรมลามก เป็นเหตุให้เดือดร้อน
ครองความเป็นหญิงแพศยาอยู่หมื่นชาติยังมิได้พ้น
จากบาปกรรมนั้น เปรียบเหมือนคนที่กินยาพิษ
อันร้ายแรงฉะนั้น
ดิฉันได้บวชเป็นภิกษุณีมีเพศประเสริฐ
ในศาสนาพระพุทธกัสสปได้ไปเกิดในภพดาวดึงส์
เพราะผลแห่งบรรพชากรรมนั้น.
ในภพนั้นซึ่งเป็นภพหลัง ดิฉันเป็นอุปปา-
ติกสัตว์ เกิดในระหว่างกิ่งต้นมะม่วง จึงมีชื่อว่า
อัมพปาลีตามนิมิตนั้น ดิฉันมีประชาชนหลาย
โกฏิแห่ห้อมมาบวชในพุทธศาสนา เป็นโอรสธิดา
แห่งพระพุทธเจ้า บรรลุถึงฐานะอันไม่หวั่นไหว

ข้าแต่พระมหามุนี หม่อมฉันเป็นผู้มี
ความชำนาญในฤทธิ์ ในทิพโสตธาตุ และในเจโต-
ปริยญาณ รู้ปุพเพนิวาสญาณและทิพยจักษุอัน
หมดจดวิเศษ มีอาสวะทั้งปวงสิ้นไปแล้ว บัดนี้
ภพใหม่มิได้มีอีก
หม่อมฉันมีญาณอันปราศจากมลทินบริ-
สุทธิ์ ในอรรถะ ธรรมะ นิรุตติ และปฏิภาณ
เพราะอำนาจพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด
หม่อมฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ถอนภพ
ขึ้นได้หมดสิ้นแล้ว ตัดกิเลสเครื่องผูกดังช้างพัง
ตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่
การที่หม่อนฉันได้มาในสำนักพระพุทธ-
เจ้าผู้ประเสริฐสุด เป็นการมาดีแล้วหนอ วิชชา
3 หม่อมฉันบรรลุแล้วโดยลำดับ คำสอนของ
พระพุทธเจ้าหม่อมฉันได้ทำเสร็จแล้ว
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4
วิโมกข์ 8 และอภิญญา 6 หม่อมฉันทำให้แจ้ง
ชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าหม่อมฉันได้ทำ
เสร็จแล้วดังนี้.

ทราบว่า ท่านพระอัมพปาลีภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบอัมพปาเถรีอปทาน

1

เสลาเถรีอปทานที่ 10 (40)


ว่าด้วยบุพจริยาของพระเสลาเถรี


[180] ในภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าพระ-
นามว่ากัสสปะ ผู้เป็นพงศ์พันธุ์แห่งพราหมณ์ มี
ยศมากประเสริฐกว่าพวกบัณฑิต เสด็จอุบัติขึ้น
แล้ว
ครั้งนั้น ดิฉันเกิดในสกุลอุบาสก ใน
พระนครสาวัตถีอันประเสริฐ เห็นพระพิชิตมาร
ผู้ประเสริฐพระองค์นั้น และฟังธรรมเทศนาแล้ว
ถึงพระองค์ผู้มีเพียรเป็นสรณะ แล้ว
สมาทานศีลทั้งหลาย ครั้งหนึ่ง พระมหาวีรเจ้า
พระองค์นั้น ผู้องอาจกว่านรชน ทรงประกาศ
อภิสัมโพธิญาณของพระองค์ในสมาคมแห่งมหา-
ชนว่า
เรามีจักษุ ญาณ ปัญญา วิชชาและ
แสงสว่าง ในธรรมที่เราไม่เคยได้ฟังมาในกาล
ก่อน และในอริยสัจมีทุกขอริยสัจเป็นต้น ดิฉัน
ได้ฟังธรรมนั้นแล้ว เล่าเรียนแล้วสอบถามภิกษุ
ทั้งหลาย
ด้วยกุศลกรรมที่ได้ทำแล้วนั้น และด้วย
การตั้งเจตน์จำนงไว้ ดิฉันละร่างกายมนุษย์แล้ว


1. ม. เปสลา