เมนู

อัมพปิณฑิยเถราปทานที่ 9 (439)



ว่าด้วยผลแห่งการถวายมะม่วง



[29] ครั้งนั้น เราเป็นพญาช้างมีงางอน
งาม ทรงกำลังกล้าว่องไว เที่ยวอยู่ในป่าใหญ่ได้
เห็นพระผู้นำโลก
เราได้หยิบเอาชิ้นมะม่วงมาถวายแด่พระ
ศาสดา พระมหาวีรเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะผู้นายก
ของโลก ทรงรับประเคน
เมื่อเราเพ่งดู พระพิชิตมารได้เสวยในกาล
นั้น เรายังจิตให้เลื่อมใสในพระชินเจ้าพระองค์นั้น
จึงเข้าถึงสวรรค์ชั้นดุสิต
เราจุติจากดุสิตนั้นแล้ว ได้เป็นพระเจ้า
จักรพรรดิราชเสวยสมบัติโดยอุบายเช่นนั้นแหละ
เรามีตนส่งไปเพื่อความเพียร สงบระงับ
ไม่มีอุปธิกิเลส กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว เป็น
ผู้ไม่มีอาสวะอยู่
ในกัปที่ 94 แต่กัปนี้ เราได้ถวายทานใด
ในกาลนั้น ด้วยทานนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้า เราได้สำเร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระอัมพปิณฑิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบอัมพปิณฑิยเถราปทาน

ชัมพูผลิยเถราปทานที่ 10



ว่าด้วยผลแห่งการถวายลูกหว้า



[30] เมื่อพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุ-
มุตตระ เชษฐบุรุษของโลก ผู้คงที่ ผู้ทรงยศอัน
สูงสุด กำลังเสด็จเที่ยวบิณฑบาตอยู่
ข้าพระองค์มีใจเลื่อมใส ได้ถือเอาผลหว้า
อย่างดีมาถวายแด่พระศาสดา ผู้เป็นทักขิไณย
บุคคล เป็นนักปราชญ์
ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นใหญ่กว่าสัตว์ เชษฐ-
บุรุษของโลก ประเสริฐกว่านรชน เพราะกรรม
นั้น ข้าพระองค์จึงเป็นผู้ละความชนะ และความ
แพ้แล้ว ได้ถึงฐานะที่ไม่หวั่นไหว
ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ ข้าพระองค์ได้ถวาย
ทานใดในกาลนั้น ด้วยทานนั้น ข้าพระองค์ไม่รู้จัก
ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้อย่างดีเป็น
ทาน
ข้าพระองค์เผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . .
คำสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพระองค์ได้ทำเสร็จ
แล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระชัมพูผลิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบชัมพูผลิยเถราปทาน