นฬมาลิกาเถรีอปทาน 6 (16)ผลของการบูชาด้วยดอกบัว[156 ] ดิฉันเกิดเป็นนางกินรีอยู่ที่ฝั่ง แม่น้ำจันทภาคา ครั้งนั้น ดิฉันได้พบพระสยัม- ภูพุทธเจ้าผู้ปราศจากธุลี ไม่ทรงพ่ายแพ้อะไร ๆ จึงมีจิตเลื่อมใสโสมนัส เกิดปีติ ประนมอัญชลี แล้ว เก็บเอาดอกอ้อมาบูชาพระสยัมภู เพราะ กรรมที่ทำไว้ดีนั้น และเพราะการตั้งเจตน์จำนง ไว้ ดิฉันละร่างนางกินรีแล้ว ได้ไปสวรรค์ชั้น ดาวดึงส์ ดิฉันได้เป็นอัครมเหสีของท้าวสักก- เทวราช 36 พระองค์ สิ่งที่ฉันปรารถนาด้วยใจ ย่อมเกิดตามปรารถนา ดิฉันได้เป็นพระอัคร- มเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ 10 พระองค์ ดิฉัน เป็นผู้สร้างตน ท่องเที่ยวไปในภพทั้งปวง กุศลของดิฉันมี ดิฉันได้ออกบวชเป็น บรรพชิต วันนี้ดิฉันเป็นปูชารหบุคคลในศาสนา ของพระศากยบุตร ในกัปที่ 84 แต่กัปนี้ ดิฉันได้บูชา พระพุทธเจ้าใด ด้วยพุทธบูชานั้น ดิฉันไม่รู้จัก ทุคติเลย นี้เห็นผลแห่งดอกอ้อ ทุกวันนี้ดิฉันมีใจบริสุทธิ์ ปราศจากใจ มหาปชาบดีโคตมีเถรีอปทานที่ 7 (17)บุพจริยาของพระมหาปาชาบดีโคตมีเถรี[157] ในกาลครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระ- ภาคเจ้า ผู้เป็นประทีปแก้วส่องโลกให้สว่างไสว เป็นนายสารภีฝึกนรชน ประทับอยู่ ณ กูฏาคาร ศาลาป่ามหาวันใกล้พระนครเวสาลี ครั้งนั้น พระมาโคตมีภิกษุณี พระมหา- ตุจฉาของพระพิชิตมาร อยู่ในสำนักนางภิกษุณี ในพระนครอันรื่นรมย์นั้น พร้อมด้วยพระภิกษุณี 500 องค์ ซึ่งล้วนแต่พ้นจากกิเลสแล้ว เมื่อ พระมหาปชาบดีโคตมีนั้นอยู่ในที่สงัด ตรึกนึกคิด อย่างนี้ว่า การปรินิพพานของพระพุทธเจ้าก็ดี ของ คู่พระอัครสาวกก็ดี ของพระราหุล พระอานนท์ และพระนันทะก็ดี เราไม่ได้เห็น |