เมนู

เอกปิณฑปาตทายิกาเถรีอปทานที่ 6 (6)



ผลของการถวายข้าวผสมน้ำนม



[146] ในพระนครพันธุมดี มีพระบรม
กษัตริย์พระองค์หนึ่งพระนามว่า พันธุมา ดิฉัน
เป็นพระอัครมเหสีของท้าวเธอ ดิฉันย่อมพูดกะ
คนบางคน ครั้งนั้น ดิฉันอยู่ในที่ลับ นั่งคิด
อย่างนี้ว่า ก็กุศลที่บุคคลจะพึงถือเอาไปด้วย ที่
เราทำแล้วไม่มีเลย
เราจะต้องไปนรกที่มีความเร่าร้อนใหญ่
ยิ่ง เผ็ดร้อนร้ายกาจ ทารุณโดยแน่นอน ใน
ข้อนี้เราไม่มีความสงสัยเลย ดังนี้
ดิฉันเข้าเฝ้าพระราชา แล้วกราบทูลว่า
ขอเดชะ ขอพระองค์จงพระราชทานสมณะให้
หม่อมฉันสักองค์หนึ่งเถิด หม่อมฉันจักนิมนต์
ให้ท่านฉัน พระมหาราชาได้พระราชทานสมณะ
ผู้มีอินทรีย์อันอบรมแล้วให้ดิฉัน ดิฉันรับบาตร
ของท่านแล้วนิมนต์ท่านให้ฉันจนอิ่มหนำ ด้วย
ข้าวที่ระคนด้วยน้ำนมและทธิแล้ว ดิฉันบูชาด้วยข้าว
ที่ระคนด้วยน้ำนมและทธิแล้ว ทำของหอมและ
เครื่องไท้ทา เอาร่างแหปิดแล้วเอาผ้าเหลืองคลุม
ไว้


ดิฉันนึกถึงอารมณ์ของดิฉันทราบเท่าสิ้น
ชีวิต ยังจิตให้เลื่อมใสในกรรมนั้นแล้ว ได้ไป
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ดิฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของท้าว
สักกเทวราช 30 พระองค์ สิ่งที่ดิฉันปรารถนา
ด้วยใจ ย่อมเกิดสมดังประสงค์
ฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้า
จักรพรรดิ 20 พระองค์ดิฉันเป็นหญิงสร้างตัวเอง
ท่องเที่ยวไปในภพน้อยใหญ่
ดิฉันพ้นจากเครื่องผูกพันทุกอย่างแล้ว
มีการอุบัติไปปราศแล้ว มีอาสวะสิ้นไปหมดแล้ว
บัดนี้ ภพไปไม่มีอีก
ในกัปที่ 91 แต่กัปนี้ ดิฉันได้ให้ทานใด
ในกาลนั้น ด้วยทานนั้นดิฉันจึงไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งบิณฑบาต
ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ฯลฯ คำสอน
ของพระพุทธเจ้าดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระเอกปิณฑปาตทายิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้
ด้วยประการฉะนี้แล.
จบเอกปิณฑปาตทายิกาเถรีอปทาน

กฏัจฉุภิกขาทายิกาเถรีอปทานที่ 7 (7)


ผลของการถวายภิกษา 1 ทัพพี


[147] ดิฉันได้ตักเอาภิกษาหนึ่งพันทัพพี
ถวายแด่พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด พระนามว่า
ติสสะ บรมศาสดา ซึ่งกำลังเสด็จเที่ยวบิณฑบาต
อยู่
พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ บรม-
ศาสดา ผู้นำชั้นของโลก ทรงรับแล้วประทับ
ยืนทำอนุโมทนาแก่ดิฉันกลางถนนว่า
ท่านถวายภิกษาหนึ่งทัพพีแล้ว จักไป
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จักได้เป็นพระอัครมเหสีของ
ท้าวสักรินเทวราช ถึง 36 พระองค์ จักได้เป็น
พระอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ 50 พระองค์
ท่านจักได้สิ่งที่ใจปรารถนาในกาลทั้งปวง
ท่านเสวยสมบัติแล้ว จักเป็นผู้ไม่มีความ
ห่วงใยออกบวช กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้วจัก
เป็นผู้ไม่มีอาสวะนิพพาน
พระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้นำชั้น
เลิศของโลก เป็นนักปราชญ์ ครั้นตรัสดังนี้แล้ว
ก็เหาะขึ้นสู่นภากาศ เหมือนพระยาหงส์บินอยู่ใน
อัมพรฉะนั้น.