เมนู

รัฐปาลเถราปทานที่ 11 (561)



ว่าด้วยบุพจริยาของพระรัฐปาลเถระ



[151] ข้าพเจ้า ได้ถวายพญาช้างเชือก
ประเสริฐ มีงาใหญ่งอนงามเสมือนงอนไถ แด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่า ปทุมุตตระ ผู้
เจริญที่สุดของโลก ผู้คงที่.
ข้าพเจ้า เป็นนายควาญช้าง นั่งอยู่บน
คอช้าง อันตกแต่งให้งามด้วยเศวตฉัตร ได้จ่าย
ทรัพย์แล้วให้สร้างสังฆารามทั้งหลังนั้น.
ข้าพเจ้าได้สละทรัพย์ 54,000 กหาปณะ
ให้สร้างปราสาททั้งหลาย กระทำการถวายทาน
ด้วยเครื่องไทยมีราคามาก แด่พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าผู้มีพระคุณใหญ่.
พระมหาวีรเจ้า ผู้สัพพัญญู ผู้เป็นบุคคล
ผู้เลิศ ทรงยังมหาชนทั้งหมดให้ร่าเริงอยู่ ทรง
แสดงอมตบทแล้ว.
พระพุทธเจ้า พระนามว่า ปทุมุตตระ
ทรงกระทำธรรมนั้น ให้แจ้งแก่ข้าพเจ้า ประทับ
นั่งในท่ามกลางหมู่ภิกษุแล้ว ได้ตรัสพระคาถา
เหล่านี้ ว่า

ผู้นี้ ได้สละทรัพย์ 54,000 กหาปณะ
กระทำปราสาทแล้ว เราจะกล่าวถึงวิบาก ท่าน
ทั้งหลายจงฟัง เราจะกล่าววิบากนั้น
ผู้นี้สละทรัพย์ 18,000 กหาปณะ ให้
สร้างเรือนยอด เขาจักเกิดในวิมาน และวิมาน
เหล่านั้น จักสำเร็จด้วยทองทั้งหลัง.
เขา จักเป็นจอมเทวดา 50 ครั้ง จัก
เสวยรัชสมบัติและเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 58 ครั้ง
ในกัปที่ 100,000 พระมหาบุรุษ จักทรง
สมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช ทรงมีพระนาม
โดยพระโคตรว่า โคตมะ จักทรงเป็นพระศาสดา
ในโลก.
ครั้นเขาจุติจากเทวโลก อันกุศลมูล
ตักเตือนแล้ว ในกาลนั้น เขาจักเกิดในตระกูลที่
มั่งคั่ง มีโภคะมาก.
ภายหลัง เขาบวชแล้ว อันกุศลมูล
ตักเตือนแล้ว จึงได้นามว่า รัฐปาละ จักได้เป็น
สาวกของพระศาสดา.
เขา มีความเพียรอันตั้งไว้แล้ว เข้าไป
สงบ ปราศจากอุปธิแล้ว ในเมื่อบริษัทยังมีอาสวะ
อยู่ แต่เขาจักเป็นผู้ไม่มีอาสวะ นิพพาน.

ข้าพเจ้าพยายามแล้วออกบวช ละทิ้ง
โภคะและสมบัติทั้งหลาย ข้าพเจ้า ไม่มีความ
รักใคร่ในโภคะสมบัติ อันเป็นเสมือนก้อนเขฬะ
ฉะนั้น.
ข้าพเจ้าทรงไว้ซึ่งการนำธุระคือความเพียร
ไป ซึ่งการนำไปซึ่งธรรมอันเป็นแดนเกษมจาก
โยคะและซึ่งกายในภพสุดท้าย ในพระศาสนาของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า.
กิเลสทั้งหลาย ข้าพเจ้าได้เผาสิ้นแล้ว
ฯลฯ ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่.
ข้าพเจ้าเป็นผู้มาดีแล้วแล ฯลฯ คำสอน
ของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าได้กระทำเสร็จแล้ว.
ปฏิสัมภิทา 4 ฯลฯ คำสอนของพระ-
พุทธเจ้า ข้าพเจ้าได้กระทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระรัฐปาละเถระ ได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบรัฐปาลเถราปทาน

561. อรรถกถารัฐปาลเถราปทาน



พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ 11 ดังต่อไปนี้:-
อปทานของท่านพระรัฐปาลเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตรสฺส
ภควโต
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้ว ในพระพุทธเจ้าพระ-
องค์ก่อน ๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพ
นั้น ๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ท่านได้บังเกิด
ในตระกูลคฤหบดีมหาศาล ในพระนครหังสาวดี ก่อนหน้าที่พระผู้มีพระภาค-
เจ้าพระองค์นั้น ทรงอุบัตินั่นแล พอเจริญวัยแล้ว บิดาล่วงลับดับชีวิตไป
เองก็ดำรงเพศเป็นฆราวาสครองเรือน ได้เห็นทรัพย์สมบัติ ที่มีอยู่ในตระกูล
วงศ์อันหาปริมาณมิได้ ตามที่คนผู้รักษาเรือนคลังรัตนะแสดงให้ทราบแล้ว
จึงคิดว่า ปู่ย่า ตายาย เป็นต้นของเรา ไม่อาจเพื่อจะถือเอากองทรัพย์สมบัติ
มีประมาณเท่านี้ ไปกับตนได้เลย แต่เราควรที่จะถือเอาแล้วจึงไป จึงได้ให้
มหาทานแก่หมู่คนทั้งหลายมีคนกำพร้าเป็นต้น. เขาได้บำรุงพระดาบสผู้ได้
อภิญญารูปหนึ่ง บุญนั้นจึงส่งเขาให้เป็นใหญ่ในเทวโลก เขาบำเพ็ญบุญ
ทั้งหลายจนตลอดชีวิตแล้ว จุติจากอัตภาพนั้น ได้ไปเกิดเป็นเทวดา. เทวดา
นั้น ได้ครอบครองเทวราชสมบัติในเทวโลกนั้น ดำรงอยู่จนตลอดอายุ จุติ
จากอัตภาพนั้นแล้ว ได้เกิดเป็นลูกชายคนเดียวแห่งตระกูล ซึ่งสามารถเพื่อจะ
ทำรัฐที่แตกกันแล้วในโลกมนุษย์ให้ทรงอยู่ได้ ก็โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ทรงอุบัติขึ้นในโลกแล้ว ได้ทรงประกาศ
พระธรรมจักรอันบวชให้เป็นไปแล้ว ทรงยังเวไนยสัตว์ ให้ได้บรรลุถึงภูมิ