เมนู

นัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้พร้อมกับบริษัท ดัง
ที่ได้กล่าวไว้แล้วในอปทานของพระนทีกัสสป จึงได้ดำรงอยู่ในพระอรหัต-
ผล
ครั้นท่านได้บรรลุพระอรหัตแล้ว เกิดมีความโสมนัสใจเมื่อจะประ-
กาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า
อชินจมฺมวตฺโถหํ ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อชินจมฺมวตฺโถ
ความว่า เพราะบวชเป็นดาบส จึงนุ่งห่มด้วยหนังเสือ. บทว่า ขาริภารธโร
ความว่า ในเวลาเป็นดาบส ต้องบรรจุหาบบริขารสำหรับดาบสหาบไป. คือ
เอาบริขารของดาบสบรรจุลงจนเต็มหาบ. บทว่า โกลํ อหาสิ อสฺสมํ
ความว่า เอาผลพุทราวางจนเต็มเกลื่อนอาศรมแล้วก็นั่งในอาศรม. บทว่า
อโคปยึ ความว่า เราได้แสวงหาผลพุทราแล้วเก็บรักษาไว้ในอาศรม. คำที่
เหลือทั้งหมด มีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาคยากัสสปเถราปทาน

กิมิลเถราปทานที่ 4 (554)



ว่าด้วยบุพจริยาของพระกิมิลเถระ



[144] เมื่อพระพุทธเจ้า พระนามว่า
กกุสันธะ ปรินิพพานแล้ว ข้าพเจ้า ได้เก็บเอา
ดอกเข็มมาทำเป็นมณฑปบรรจุพระธาตุ ของพระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ทรงมีวสี.

ครั้นจุติแล้ว ไปสู่ภพดาวดึงส์ ได้วิมาน
สูงใหญ่เป็นพิเศษรุ่งโรจน์ล่วงวิมานของเทวดา
เหล่าอื่น นี้เป็นผลแห่งกรรมอันเป็นบุญ.
จะเป็นกลางวัน หรือกลางคืนก็ดี ข้าพ-
เจ้า จะเดินอยู่ หรือยืนอยู่ก็ดี ดอกเข็มจะต้อง
มาครอบคลุมอยู่เบื้องบน นี้เป็นผลแห่งกรรมอัน
เป็นบุญ.
ในกัปนี้นี่แหละ ข้าพเจ้าได้บูชาอย่างยิ่ง
ซึ่งพระพุทธเจ้าพระองค์ใด ด้วยกรรมนั้น ข้าพเจ้า
ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระพุทธ-
เจ้า.
กิเลสทั้งหลาย ข้าพเจ้าได้เผาสิ้นแล้ว
ฯลฯ ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่.
ข้าพเจ้า ได้มาดีแล้วแล ฯลฯ คำสอน
ของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระกิมิลเถระ ได้กล่าวคาถาเหล่านั้นไว้ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จนกิมิลเถราปทาน

554. อรรถกถากิมิลเถราปทาน



พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ 4 ดังต่อไปนี้:-
อปทานของท่านพระกิมิลเถระ มีคำเริ่มต้นว่า นิพฺพุเต กกุสนฺธมฺหิ
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระ-
องค์ก่อน ๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพ
นั้น ๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า กกุสันธะ ท่านได้บังเกิด
ในเรือนอันมีสกุล บรรลุนิติภาวะแล้ว เมื่อพระศาสดาปรินิพพานแล้ว ได้ช่วย
กันเอาดอกเข็มมาทำเป็นมณฑปอุทิศถวายพระธาตุของพระองค์ ได้ทำการบูชา
แล้ว. ด้วยบุญกรรมอันนั้น ท่านได้บังเกิดในภพดาวดึงส์ ได้ท่องเที่ยวไป
ในเทวโลกและมนุษยโลกกลับไปกลับมา ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้บังเกิดใน
สักยราชตระกูลในกบิลพัสดุ์นคร เขาได้มีชื่อว่า กิมิละ. พอเขาเจริญวัยแล้ว
อยู่อย่างประมาทด้วยโภคสมบัติ. พระศาสดาประทับอยู่นอนุปิยนิคม ทรง
ทราบว่าญาณของเขาแก่กล้าแล้ว เพื่อจะให้เขาเกิดความสังเวช จึงทรงเนรมิต
รูปหญิงที่งามน่ารื่นรมย์ใจ อยู่ในวัยรุ่น ทรงแสดงให้ปรากฏข้างหน้าตาม
ลำดับอีก ปรากฏเป็นไปตามความวิบัติด้วยความชราและโรคภัยไข้เจ็บ. ได้ทรง
กระทำอย่างนั้นแล้ว. กิมิลกุมารได้เห็นรูปนั้น แล้วได้เกิดความสังเวชเป็นยิ่งนัก
เมื่อจะประกาศความสังเวชของตน ทำให้ปรากฏแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้
รับคำสั่งสอนแล้ว ก็ได้บรรลุพระอรหัต.