เมนู

แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระ-
องค์ก่อน ๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพ
นั้น ๆ ในกาลแห่งพระผู้นี้พระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ เขาได้บังเกิดใน
ตระกูลพราหมณ์. คำนั้นทั้งหมด พอจะกำหนดได้โดยง่ายตามลำดับแห่งปาฐะ
นั้นนั่นแล.
จบอรรถกถากังขาเรวตเถราปทาน

สีวลิเถราปทานที่ 3 (543)



ว่าด้วยบุพจริยาของพระสีวลิเถระ



[133 ] ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ พระพิชิต
มารพระนามว่าปทุมุตตระ ผู้มีจักษุในธรรมทั้งปวง
เป็นผู้นำ ได้เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว ศีลของพระองค์
ใคร ๆ ก็คำนวณไม่ได้ สมาธิของพระองค์เปรียบ
ด้วยแก้ววิเชียร ฌานอันประเสริฐของพระองค์
ใคร ๆ ก็นับไม่ได้ และวิมุตติของพระองค์ก็หา
อะไรเปรียบมิได้
พระนายกเจ้าทรงแสดงธรรมในสมาคม
มนุษย์ เทวดา นาคและพรหม ซึ่งเกลื่อนกล่น
ไปด้วยสมณะและพราหมณ์
พระพุทธองค์ก็แกล้วกล้าในบริษัท ทรง
ตั้งสาวกของพระองค์ ผู้มีลาภมากมีบุญ ทรงซึ่ง
ฤทธิ์อันรุ่งเรือง ไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ

ครั้งนั้น เราเป็นกษัตริย์ในพระนครหังส-
วดี ได้ยินพระพิชิตมารตรัสถึงคุณเป็นอันมากของ
พระสาวก ดังนั้น จึงได้นิมนต์พระชินสีห์พร้อม
ทั้งพระสาวก ให้เสวยและฉันถึง 7 วัน ครั้น
ถวายมหาทานแล้วก็ได้ปรารถนาฐานันดรนั้น
พระธีรเจ้าผู้ประเสริฐกว่าบุรุษ ทอดพระ-
เนตรเห็นเราหมอบอยู่แทบพระบาทในคราวนั้น
จึงได้ตรัสพระดำรัสด้วยพระสุรเสียงอันดัง
ลำดับนั้น มหาชน ทวยเทพ คนธรรพ์
พรหมผู้มีฤทธิ์มากและสมณพราหมณ์ ผู้ใคร่จะฟัง
พระพุทธพจน์ ต่างประณตน้อมถวายนมัสการ
ทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นบุรุษผู้เป็นอาชาไนย
ข้าพระองค์ทั้งหลายขอนอบน้อมแด่พระองค์ ข้า
แต่พระองค์ผู้เป็นอุดมบุรุษ ข้าพระองค์ทั้งหลาย
ขอนอบน้อมแด่พระองค์
พระมหากษัตริย์ได้ถวายทานกว่า 7 วัน
ข้าพระองค์ทั้งหลายประสงค์จะฟังผลของมหาทาน
นั้น ข้าแต่พระมหามุนีขอได้ทรงโปรดพยากรณ์
เถิด
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า
ท่านทั้งหลายจงคอยสดับภาษิตของเรา ทักษิณาที่

ตั้งไว้ในพระพุทธเจ้าผู้มีคุณหาประมาณมิได้พร้อม
ทั้งพระสงฆ์ ใครเล่าจะเป็นผู้ถือเอามากล่าว
เพราะทักษิณานั้น มีผลหาประมาณมิได้ อีกประ-
การหนึ่งกษัตริย์ผู้มีโภคะมานี้ ทรงปรารถนา
ฐานันดรอันอุดมว่า ถึงเราก็พึงเป็นผุ้ได้ลาภมาก
เหมือนภิกษุชื่อสุทัสสนะฉะนั้นเถิด มหาบพิตร
จักได้ฐานันดรนี้ในอนาคต
ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ไปพระศาสดามี
พระนามว่าโคดม ซึ่งสมภพในวงศ์ของพระเจ้า
โอกกากราช จักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก
กษัตริย์องค์นี้จักได้เป็นธรรมทายาทของ
พระศาสดาพระองค์นั้น จักเป็นโอรสอันธรรม
เนรมิต จักเป็นสาวกของพระศาสดา นามชื่อว่า
สีวลี
เพราะกรรมที่ทำไว้ดีแล้ว และเพราะ
การตั้งเจตน์จำนงไว้ เราละร่างมนุษย์แล้ว ได้
ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ในกัปที่ 91 แต่ภัทรกัปนี้พระโลกนายก
พระนามว่าวิปัสสี ผู้มีพระเนตรงดงาม ทรงเห็น
แจ้งธรรมทั้งปวง ได้เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว

ครั้งนั้น เราเป็นคนโปรดปรานของสกุล
หนึ่งในพระนครพันธุมวดี และเป็นคนที่หมั่น
ขยันขวนขวายในกิจการงาน ครั้งนั้น พระราชา
พระองค์หนึ่งตรัสสั่งให้นายช่างสร้างพระอาราม
ซึ่งปรากฏว่าใหญ่โต ถวายสมเด็จพระวิปัสสี
ผู้แสวงหาประโยชน์ใหญ่
เมื่อการสร้างพระอารามสำเร็จแล้ว ชน
ทั้งหลายได้ถวายมหาทานซึ่งเข้าใจว่าของเคี้ยว
ชนทั้งหลาย ค้นคว้าหานมส้มใหม่และน้ำผึ้ง
ไม่ได้ เวลานั้น เราถือนมส้มใหญ่และน้ำผึ้งไป
เรือนของนายงาน ชนทั้งหลายที่แสวงหานมส้ม
ใหญ่และน้ำผึ้งพบเราเข้า ของสองสิ่งเขาได้ให้
ราคาตั้งพันกหาปณะก็ยังไม่ได้ไป
ครั้งนั้น เราคิดว่าของสองสิ่งนี้เราไม่มี
กะใจที่จะขายมัน ชนเหล่านี้ทั้งหมดสักการะพระ-
ตถาคต ฉันใด แม้เราก็จะทำสักการะในพระผู้นำ
โลกกับพระสงฆ์ ฉันนั้นก็เหมือนกัน
ครั้งนั้น เราได้นำเอาไปแล้ว ผสมนม
ส้มกับน้ำผึ้งป่าด้วยกัน แล้วถวายแด่พระโลกนาถ
พร้อมทั้งพระสงฆ์

เพราะกรรมที่ทำไว้ดีแล้วและเพราะการ
ตั้งเจตน์จำนงไว้ เราละร่างมนุษย์แล้ว ได้ไป
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ต่อมา เราได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินผู้มียศ
ใหญ่ในพระนครพาราณสี ในครั้งนั้น เราเคือง
ศัตรูจึงสั่งให้ทหารทำการล้อมประตูเมืองศัตรู
ไว้
ประตูที่ถูกล้อมของพระราชาผู้มีเดชรักษา
ไว้ได้เพียงวันเดียว เพราะผลของกรรมนั้น เรา
จงต้องตกนรกอันร้ายกาจที่สุด
และในภพสุดท้ายในบัดนี้ เราเกิดใน
โกลิยบุรี พระชนนีของเราพระนามว่าสุปปวาสา
พระชนกของเรา พระนามว่ามหาลิลิจฉวี เรา
เกิดในราชวงศ์เพราะบุญกรรม เพราะการล้อม
ประตูเมืองให้ผล เราจึงต้องประสบทุกข์อยู่ใน
พระครรภ์ของพระมารดาถึง 7 ปี
เราต้องหลงทวารอยู่อีก 7 วัน เพียบ
พร้อมไปด้วยมหันตทุกข์ พระมารดาของเรา
ต้องประสบทุกข์ด้วยเช่นนี้ ก็เพราะให้ฉันทะใน
การล้อมประตูเมือง

เราอันพระพุทธเจ้าทรงอนุเคราะห์ จึง
ออกจากพระครรภ์พระมารดาโดยสวัสดีเราได้ออก
บวชเป็นบรรพชิต ในวันที่เราคลอดออกมานั่นเอง
ท่านพระสารีบุตรเถระ เป็นอุปัชฌาย์ของ
เราพระโมคคัลลานเถระผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ มีปรีชา
มาก เมื่อปลงผมให้ ได้อนุศาสน์พร่ำสอนเรา
เราได้บรรลุอรหัตเมื่อกำลังปลงผมอยู่ ทวยเทพ
นาคและมนุษย์ ต่างก็น้อมนำปัจจัยเข้ามาถวาย
เรา
เพราะเศษของกรรมที่เราเป็นผู้เบิกบาน
บูชาพระผู้นำชน พิเศษพระนามว่าปทุมุตตระและ
พระนามว่าวิปัสสี ด้วยปัจจัยทั้งหลายโดยพิเศษ
เราจึงได้ลาภอันอุดมไพบูลย์ทุกแห่งหน คือ ใน
ป่า ในบ้าน ในน้ำ บนบก
ในคราวที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้นำโลก
ชั้นเลิศ พร้อมด้วยภิกษุสามหมื่นรูป เสด็จ
ไปเยี่ยมท่านพระเรวตะ
พระพุทธเจ้าผู้มีพระปรีชาใหญ่ มีความ
เพียรมาก เป็นนายกของโลก พร้อมด้วยพระ-
สงฆ์ เป็นผู้อันเราบำรุงด้วยปัจจัยที่เทวดานำเข้า
มาถวายเราได้เสด็จไปเยี่ยมท่านเรวตะแล้ว ภาย
หลังเสด็จกลับมายังพระเชตวันมหาวิหารแล้วจึง
ทรงแต่งตั้งเราไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ

พระศาสดาผู้ทรงประพฤติประโยชน์แก่
สัตว์ทั้งปวง ได้ตรัสสรรเสริญเราในท่ามกลาง
บริษัทว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในบรรดาสาวก
ของเรา ภิกษุสีวลีเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายฝ่ายที่มี
ลาภมา
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสีวลีเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
จบสีวลิเถราปทาน


543. อรรถกถาสีวลิเถรปทาน



พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ 3 ดังต่อไปนี้:-
อปทานของท่านพระสีวลีเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตโร นาม
ชิโน
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระ-
องค์ก่อน ๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพ
นั้น ๆ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ท่านได้บังเกิด
ในเรือนอันมีสกุล ได้ไปยังพระวิหารโดยนัยดังที่ได้กล่าวไว้แล้วในหนหลัง
ยืนอยู่ท้ายบริษัท ก็กำลังฟังธรรม ในเห็นพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งพระศาสดา
ทรงสถาปนาเธอไว้ในตำแหน่งที่เลิศกว่าพวกภิกษุผู้มีลาภ แล้วคิดว่า ใน