เมนู

เอกทุสสทายกเถราปทานที่ 2 (422)



ว่าด้วยผลแห่งการถวายผ้าเป็นพุทธบูชา



[12] เราเป็นคนเกี่ยวหญ้าขายอยู่ใน
พระนครหังสวดี เลี้ยงชีพด้วยการเกี่ยวหญ้า
เลี้ยงดูเด็ก ๆ ด้วยการเกี่ยวหญ้านั้น
พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระผู้รู้จบ
ธรรมทั้งปวง เป็นนายของ เสด็จอุบัติขึ้น
กำจัดความมืดมนให้พินาศ
ครั้งนั้น เรานั่งอยู่ในเรือนของตน คิด
อย่างนี้ว่า พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลก
ไทยธรรมของเราไม่มี เรามีแต่ผ้าสาฎกผืนเดียวนี้
ไม่มีใครจะให้เรา การถูกต้องนรกนำความทุกข์
มาให้ เราจะปลูกฝังทักษิณา
ครั้นคิดได้เช่นนี้แล้ว เราจึงได้ยังจิตของ
เราให้เลื่อมใส ได้ถือผ้าผืนหนึ่งไปถวายแด่พระ-
พุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด
ครั้นถวายผ้าแล้วประกาศเสียงก้องว่า
ข้าแต่พระมหามุนีวีระเจ้า ถ้าพระองค์เป็น
พระพุทธเจ้า ก็ขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้
ข้ามด้วยเถิด
พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ทรง
รู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับเครื่องบูชา เมื่อจะทรง

ประกาศทานของเรา ได้ทรงทำอนุโมทนาแก่
เราว่า
ด้วยการถวายผ้าผืนหนึ่งนี้ และด้วยการ
ตั้งเจตนาไว้ บุรุษนี้จะไม่ไปสู่วินิบาศเลยตลอด
แสนกัป
เขาจักได้เป็นจอมเทพเสวยรัชสมบัติใน
เทวโลก 36 ครั้ง จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช
33 ครั้ง
และจักได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอัน
ไพบูลย์โดยคณนานับมิได้ เมื่อเธอท่องเที่ยวอยู่
ในภพ คือ ในเทวโลกหรือมนุษย์โลก
จักเป็นผู้มีรูปสวยงาม สมบูรณ์ด้วยคุณ
มีกายสง่า จักได้ผ้าร้อยล้านแสนโกฏินับไม่ได้
ตามความปรารถนา
ครั้นพระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ
ผู้เป็นนักปราชญ์ตรัสดังนี้แล้ว ได้เสด็จเหาะเหิน
สู่อากาศเหมือนพญาหงส์ในอันพรฉะนั้น
เราเข้าถึงกำเนิดใด ๆ คือ เป็นเทวดาหรือ
มนุษย์ ในกำเนิดนั้น ๆ เราไม่มีความพร่องใน
โภคสมบัติเลย นี้เป็นผลแห่งผ้าผืนหนึ่ง
ผ้าเกิดแก่เราทุก ๆ ย่างก้าว ข้างล่างเรา
ยืนอยู่บนผ้าล่างบนเรานี้ผ้าเป็นเครื่องบัง

ทุกวันนี้จักรวาลพร้อมทั้งป่า ภูเขา เมื่อ
เราปรารถนาจะถือเอา ก็พึงคลุมได้ด้วยผ้า
เพราะผ้าผืนเดียวนั่นแหละ เมื่อยังท่อง
เที่ยวอยู่ในภพน้อยใหญ่ เราเป็นผู้มีผิวพรรณ
เหมือนทองคำ ท่องเที่ยวไปในภพน้อยใหญ่
เราถึงความเป็นภิกษุเพราะวิบากแห่ง
ผ้าผืนเดียว ถึงชาตินี้จะเป็นชาติสุดท้าย แม้ใน
ชาตินี้ ผ้าก็ยังให้ผลแก่เราอยู่
ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้ถวายผ้าใด
ในกาลนั้น ด้วยการถวายผ้านั้น เราไม่รู้จักทุคติ
เลย นี้เป็นผลแห่งผ้าผืนเดียว
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว. . .คำสอนของ
พระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระเอกทุสสทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบเอกทุสสทายเถราปทาน

เอกาสนทายกเถราปทานที่ 3 (423)



ว่าด้วยผ้าแห่งการแต่งอาสนะบูชา



[13] มีภูเขาลูกหนึ่งชื่อสิกะ อยู่ในที่
ไม่ไกลจากภูเขาหิมวันต์ เราสร้างอาศรมอย่าง
สวยงาม สร้างบรรณศาลาไว้ที่ภูเขานั้น เรามีนาม