เมนู

สกิงสัมมัชชกวรรคที่ 43



สกิมมัชชกเถราปทานที่ 1 [421]



ว่าด้วยผลแห่งการกวาดลานพระศรีมหาโพธิ



[11] เราได้เห็นแคฝอย ซึ่งเป็นไม้โพธิ
อันอุดมของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนานว่าวิปัสสนา
แล้วยังใจให้เลื่อมใสในไม้โพธินั้น
เราหยิบเอาไม้กวาดมากวาด (ลานโพธิ-
พฤกษ์ ) อันเป็นที่ตั้งแห่งไม้โพธิในกาลนั้น ครั้น
แล้วได้ไหว้ไม้แคฝอยซึ่งเป็นไม้โพธินั้น
เรายังจิตให้เลื่อมใสในไม้โพธินั้น ประ-
นมกรอัญชลีเหนือเศียรเกล้า นมัสการไม้โพธินั้น
แล้ว กลับไปยังกระท่อม
เราเดินนึกถึงไม้โพธิอันอุดมไปตามหน
ทางสัญจร งูเหลือมซึ่งมีรูปร่างน่ากลัว มีกำลัง
มาก รัดเรา
กรรมที่เราทำในเวลาใกล้จะตาย ได้ทำ
ให้เรายินดีด้วยผล งูเหลือมกลืนกินร่างของเรา
เรารื่นรมย์อยู่ในเทวโลก
จิตของเราไม่ขุ่นมัว บริสุทธิ์ขาวสะอาด
ในกาลทุกเมื่อ ลูกศรคือความโศก ที่เป็นเหตุทำ
จิตของเราให้เร่าร้อน เราไม่รู้จักมัน เลย

เราไม่มีโรคเรื้อน ฝี โรคกลาก ลมบ้าหมู
คุดทะราด หิดเปื่อย และหิดด้าน นี้ก็เป็นผล
แห่งการกวาด
ความโศก ความเร่าร้อน ไม่มีในหทัยของ
เรา จิตของเราตรง ไม่วอกแวก นี้เป็นผลแห่ง
การกวาด
เราถึงสมาธิอีก ใจของเราเป็นธรรมชาติ
บริสุทธิ์ สมาธิที่เราปรารถนาย่อมสำเร็จแก่เรา
เราไม่กำหนัดในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่ง
ความกำหนัด ไม่ขัดเคืองในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่ง
ความขัดเคือง และไม่หลงในอารมณ์ เป็นที่ตั้ง
แห่งความหลง นี้เป็นผลแห่งการกวาด
ในกัปที่ 91 แต่กัปนี้เราได้ทำกรรนใดใน
กาลนั้น ด้วยกรรมนั้นเราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็น
ผลแห่งการกวาค
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้า เราได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสกิงสัมมัชชกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.

จบสกิงสัมมัชชกเถราปทาน

เอกทุสสทายกเถราปทานที่ 2 (422)



ว่าด้วยผลแห่งการถวายผ้าเป็นพุทธบูชา



[12] เราเป็นคนเกี่ยวหญ้าขายอยู่ใน
พระนครหังสวดี เลี้ยงชีพด้วยการเกี่ยวหญ้า
เลี้ยงดูเด็ก ๆ ด้วยการเกี่ยวหญ้านั้น
พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระผู้รู้จบ
ธรรมทั้งปวง เป็นนายของ เสด็จอุบัติขึ้น
กำจัดความมืดมนให้พินาศ
ครั้งนั้น เรานั่งอยู่ในเรือนของตน คิด
อย่างนี้ว่า พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลก
ไทยธรรมของเราไม่มี เรามีแต่ผ้าสาฎกผืนเดียวนี้
ไม่มีใครจะให้เรา การถูกต้องนรกนำความทุกข์
มาให้ เราจะปลูกฝังทักษิณา
ครั้นคิดได้เช่นนี้แล้ว เราจึงได้ยังจิตของ
เราให้เลื่อมใส ได้ถือผ้าผืนหนึ่งไปถวายแด่พระ-
พุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด
ครั้นถวายผ้าแล้วประกาศเสียงก้องว่า
ข้าแต่พระมหามุนีวีระเจ้า ถ้าพระองค์เป็น
พระพุทธเจ้า ก็ขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้
ข้ามด้วยเถิด
พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ ทรง
รู้แจ้งโลก ผู้สมควรรับเครื่องบูชา เมื่อจะทรง