ปัตโถทนทายกเถราปทานที่ 9 (419)ว่าด้วยผลแห่งการถวายข้าวสาลีหนึ่งแล่ง[9] เมื่อก่อน, เราเป็นคนชอบเที่ยวใน ป่าประกอบการงานในป่าเสมอ เราถือเอาข้าวสุก แห่งข้าวสาลีแล่งหนึ่ง แล้วได้ไปทำการงาน ณ ที่นั้น เราได้เห็นพระสยัมภูสัมพุท- เจ้า ผู้ไม่พ่ายแพ้อะไร ๆ เสด็จออกจาป่าเพื่อ บิณฑบาต ครั้นแล้วเราได้ยังจิตให้เลื่อมใส เราประ กอบในทางการงานของคนอื่น และบุญของเรา ก็ไม่มี มีแต่ข้าวสุกแห่งข้าวสารแล่งหนึ่ง เราจัก นิมนต์พระมุนีให้เสวย เราหยิบข้าวสุกแห่งข้าว สาลีแห่งหนึ่งถวายแด่พระสยัมภู เมื่อเราเพ่งดูอยู่ พระมหามุนีทรงเสวย เพราะกรรมที่เราได้ทำไวดีแล้วนั้น และ เพราะความตั้งเจตนาไว้ เราละร่างมนุษย์แล้วก็ไป สู่ดาวดึงสพิภพ เราได้เป็นจอมเทวดาเสวยรัชสมบัติ ใน เทวโลก 32 ครั้ง เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช 33 ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ โดย คณนานับมิได้ เราเป็นผู้ถึงความสุข มียศ นี้เป็น ผลของข้าวสุกแห่งข้าวแล่งหนึ่ง เมื่อเราท่องเที่ยวอยู่ในภพน้อยภพใหญ่
มัญจทายกเถราปทานที่ 10 (420)ว่าด้วยผลแห่งการทำเตียงถวาย[10] เมื่อพระพุทธเจ้าผู้นำโลก พระนาม ว่าสิทธัตถะ ผู้ประกอบด้วยพระกรุณา ปรินิพพาน แล้ว เธอปาพจน์มีความแพร่หลาย อันเทวดา และมนุษย์สักการะแล้ว ในครั้งนั้น เราเป็นคนจัณฑาล ทำเก้าอี้ และตั่ง เลี้ยงชีพด้วยการงานนั้น เลี้ยงดูเด็ก ๆ ก็ด้วยการงานนั้น เราเลื่อมใสแล้ว ทำเก้าอี้ยาวเป็นอย่างดี ด้วยมือทั้งสองของตน แล้วได้เข้าไปถวายแก่ พระภิกษุสงฆ์ด้วยตนเอง ด้วยกรรมที่ทำไว้ดีแล้วนั้น และด้วย ความตั้งเจตนานั้นไว้ เราละร่างมนุษย์แล้ว ได้ไป ยังดาวดึงสพิภพ เราไปสู่เทวโลก บันเทิงอยู่ในหมู่ไตรทศ ที่นอนมีราคามาก ย่อมเกิดตามความปรารถนา เราได้เป็นจอมเทพเสวยรัชสมบัติในเทว- โลก 50 ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช 80 ครั้ง และได้เป็นพระเจ้าประเทศราช อันไพบูลย์ โดยคณนานับมิได้ เราเป็นผู้ถึงความสุข มียศ นี้เป็นผลแห่งการถวายเตียงนอน |