เมนู

ในกัปที่ 91 แต่กัปนี้ เราได้บูชาพระ-
พุทธเจ้าประเสริฐสุด ด้วยพุทธบูชานั้น เราไม่
รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระอุจฉังคปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.

จบอุจฉังคปุปผิยเถราปทาน

ยาคุทายกเถราปทานที่ 8 [418]



ว่าด้วยผลแห่งการถวายข้าวยาคู



[8] ครั้งนั้น เราได้พาแขกมาบ้าน
เห็นแม่น้ำที่เต็มฝั่ง จึงเข้าไปสู่สังฆาราม ภิกษุ
ทั้งหลายเป็นผู้อยู่ป่าเป็นวัตร รักษาธุดงค์ ยินดี
ในณาน มีจีวรเศร้าหมอง ชอบสงัด เป็นนัก
ปราชญ์ ท่านกำลังอยู่ในสังฆาราม
ท่านเหล่านั้นผู้หลุดพ้นดีแล้ว เป็นผู้คงที่
ได้ตัดคติเสียแล้ว ในเวลาที่แม่น้ำที่กั้นด้วยน้ำ
ท่านไปบิณฑบาตไม่ได้ เรามีจิตเลื่อมใสโสมนัส
เกิดปีติปราโมทย์ ประนมกรอัญชลี ประคอง
ข้าวสาร ถวายยาคุทานแล้ว

เราเลื่อมใส ถวายข้าวยาคูที่เราต้มด้วย
มือทั้งสองตน ปรารภแต่เฉพาะกรรนของตัว
ได้ไปดาวดึงสพิภพแล้ว
วิมานที่สำเร็จด้วยแก้วมณี ได้เกิดแก่
เราในหมู่ไตรทศ เราประกอบด้วยหมู่เทพนารี
บันเทิงอยู่ในวิมานอันอุดม
เราได้เป็นจอมเทพยดาเสวยราชสมบัติใน
เทวโลก 33 ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเสวย
ราชสมบัติใหญ่ 30 ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าประเทศ
ราชอันไพบูลย์โดยคณานับได้มิได้ เสวยยศ ใน
เทวโลกบ้าง ในมนุษย์โลกบ้าง
เมื่อถึงภพที่สุด เราได้ออกบวชเป็น
บรรพชิต ได้ละทิ้งสมบัติทุกอย่าง พร้อมกับผม
ที่ถูกโกน
เราพิจารณาร่างกายโดยความสิ้นไปและ
ความเสื่อมไป ก็ได้บรรลุพระอรหัตก่อนให้สิกขา
ทานอันประเสริฐเกิดแต่เมื่อ ซึ่งเราประ-
กอบดีแล้ว ชื่อว่าเป็นอันให้ดีแล้ว เพราะข้าว
ยาคูนั้นนั่นเอง เราจึงได้บรรลุบทอันไม่หวั่นไหว
เราไม่รู้สึกว่า ความโศก ความร่ำไร
ความป่วยไข้. ความกระวนกระวาย ความเดือด
ร้อนใจเกิดขึ้นเลย นี้เป็นผลแห่งการพวายข้าวยาคู

เราได้ถวายข้าวยาคูแก่สงฆ์ในบุญเขตอัน
ยอดเยี่ยม ย่อมได้เสวยอานิสงส์ 5 ประการ เพราะ
เราเป็นผู้ถวายข้าวยาคูดีหนอ คือ ความเป็นผู้ไม่มี
พยาธิ 1 ความเป็นผู้มีรูปสวย 1 ความเป็นผู้ได้
ตรัสรู้ธรรมได้เร็วพลัน 1 ความเป็นผู้ได้ข้าวและ
น้ำ 1 และอายุเป็นที่ 5
ผู้ใดผู้หนึ่ง เมื่อจะไห้เกิดโสมนัส ผู้นั้น
ควรถวายข้าวยาคูในสงฆ์ บัณฑิตพึงถือเอาเฉพาะ
ฐานะ 5 ประการนี้
เราทำกิจที่ควรทำทุกอย่างแล้ว เพิกถอน
ภพทั้งหลายแล้ว อาสวะสิ้นไปหมดแล้ว บัดนี้ภพ
ใหม่ไม่มีอีก
เรานั้นจักเที่ยวไปนมัสการพระสัมพุทธเจ้า
และพระธรรมอันดี จากบ้านหนึ่งไปยังบ้านหนึ่ง
จากบุรีหนึ่งไปยังบุรีหนึ่ง
ในกัปที่ 30,000 เราได้ถวายทานใดใน
กาลนั้น ด้วยทานนั้นเราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็น
ผลแห่งการถวายข้าวยาคู
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว...คำสอน
ของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้
ทราบว่า ท่านพระยาคุทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบยาคุทายกเถราปทาน

ปัตโถทนทายกเถราปทานที่ 9 (419)



ว่าด้วยผลแห่งการถวายข้าวสาลีหนึ่งแล่ง



[9] เมื่อก่อน, เราเป็นคนชอบเที่ยวใน
ป่าประกอบการงานในป่าเสมอ เราถือเอาข้าวสุก
แห่งข้าวสาลีแล่งหนึ่ง แล้วได้ไปทำการงาน
ณ ที่นั้น เราได้เห็นพระสยัมภูสัมพุท-
เจ้า ผู้ไม่พ่ายแพ้อะไร ๆ เสด็จออกจาป่าเพื่อ
บิณฑบาต
ครั้นแล้วเราได้ยังจิตให้เลื่อมใส เราประ
กอบในทางการงานของคนอื่น และบุญของเรา
ก็ไม่มี มีแต่ข้าวสุกแห่งข้าวสารแล่งหนึ่ง เราจัก
นิมนต์พระมุนีให้เสวย เราหยิบข้าวสุกแห่งข้าว
สาลีแห่งหนึ่งถวายแด่พระสยัมภู เมื่อเราเพ่งดูอยู่
พระมหามุนีทรงเสวย
เพราะกรรมที่เราได้ทำไวดีแล้วนั้น และ
เพราะความตั้งเจตนาไว้ เราละร่างมนุษย์แล้วก็ไป
สู่ดาวดึงสพิภพ
เราได้เป็นจอมเทวดาเสวยรัชสมบัติ ใน
เทวโลก 32 ครั้ง เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช 33
ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ โดย
คณนานับมิได้ เราเป็นผู้ถึงความสุข มียศ นี้เป็น
ผลของข้าวสุกแห่งข้าวแล่งหนึ่ง