ปังสุกุลปูชกเถราปทานที่ 2ว่าด้วยผลแห่งการบูชาบังสุกุล[82] ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมวันต์ มี ภูเขาลูกหนึ่งชื่ออุทัพพละที่ภูเขานั้น เราได้เห็น ผ้าบังสุกุลห้อยอยู่บนยอดไม้ครั้งนั้น เราร่าเริง มีจิตยินดี เลือกเก็บเอกดอกกระดึงทอง 3 ดอก มาบูชาผ้าบังสุกุลจีวร ด้วยกรรมที่ทำไว้ดีแล้วและด้วยการครั้ง เจตน์จำนงไว้ เราละร่างมนุษย์แล้ว ได้ไปสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ ในกัปที่ 91 แต่กัปนี้ เราได้ทำกรรมใด ในกาลนั้น เพราะบูชาธงชัยแห่งพระอรหันต์ เราไม่รู้จักทุคติเลย เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว...คำสอนของ พระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระปังสุกูลปูชกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล. จบปังสุกูลปูชกเถราปทาน
โกรัณฑปุปผิยเถราปทานที่ 3 (493)ว่าด้วยผลแห่งการบูชาบังสุกุล[83] เมื่อก่อน เรากับบิดาและปู่ เป็น คนทำงานในป่า เลี้ยงชีพด้วยฆ่าปศุสัตว์ กุศลกรรมของเราไม่มี พระผู้นำชั้นเยี่ยมของโลกพระนามว่า ติสสะ ผู้มีพระปัญญาจักษุ ทรงแสดงรอยพระบาท 3 รอยไว้ใกล้ที่อยู่ของเรา ด้วยทรงพระอนุ- เคราะห์ เราเห็นรอยพระบาทของพระศาสดาพระ- นามว่า ติสสะ ที่ทรงเหยียบไว้ เป็นผู้ร่าเริง มีจิต บันเทิง ยังจิตให้เลื่อมใสในรอยพระบาท เราเห็นต้นหงอนไก่งอกงามอยู่มีดอกบาน จึงเก็บใส่ผอบมาบูชารอยพระบาทอันประเสริฐ สุด ด้วยกรรมที่ทำไว้ดีแล้วนั้น และด้วยการ ตั้งเจตน์จำนงไว้ เราละร่างมนุษย์แล้ว ได้ไป สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เราเข้าถึงกำเนิดใด ๆ คือเป็นเทวดาหรือ มนุษย์ในกำเนิดนั้น ๆ เรามีผิวพรรณเหมือนดอก หงอนไก่ มีรัศมีซ่านออกจากตัว |