ปังสุกูลวรรคที่ 49ปังสุกูลสัญญกเถราปทานที่ 1 (481)ว่าด้วยผลแห่งการไหว้ผ้าบังสุกุลจีวร[71] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สยัมภู ผู้ นำของโลก พระนามว่าติสสะ ได้เสด็จอุบัติขึ้น แล้ว พระพิชิตมารทรงวางบังสุกุลจีวรไว้แล้ว เสด็จเข้าพระวิหาร เราสะพายธนูที่มีสายและกระบอกน้ำ ถือดาบเข้าป่าใหญ่ ครั้งนั้น เราได้เห็นบังสุกุลจีวรซึ้งแขวน อยู่บนยอดไม้ในป่านั้น จึงวางธนูลง ณ ที่นั้นเอง ประนมกรอัญชลีเหนือเศียรเกล้า เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส และมี ปีติเป็นอันมาก ระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ สุด แล้วได้ไหว้บังสุกุลจีวร ในกัปที่ 92 แต่กัปนี้ เราได้ไหว้บังสุกุล จีวรใด ด้วยการไหว้บังสุกุลจีวรนั้น เราไม่รู้จัก ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการไหว้ เราเผากิเลสทั้งหลาย. . คำสอน ของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้. ทราบว่า ท่านพระปังสูกุลสัญญเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วย อรรถกถาปังสุกูลวรรคที่ 49 อปทานที่ 1 ในวรรคที่ 49 มีเนื้อความพอที่จะกำหนดรู้ได้โดยง่าย พุทธสัญญกเถราปทานที่ 2 (482)ว่าด้วยผลแห่งการเกิดพุทธสัญญา[72] เราเป็นคนเล่าเรียน ทรงจำมนต์ รู้จบไตรเพท ชำนาญในคัมภีร์ทำนายมหาปุริส ลักษณะ คัมภีร์อิติหาสะ พร้อมด้วยคัมภีร์ นิฆัณธุศาสตร์ แลคัมภีร์เกฏุภศาสตร์ ครั้งนั้นพวกศิษย์มาหาเราปานดังกระแส น้ำ เราไม่เกียจคร้าน บกกมนต์แก่ศิษย์เหล่านั้น ทั้งกลางวันและกลางคืน ครั้งนั้น พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ เสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์ทรง กำจัดความมืดมิดให้พินาศแล้ว ยังแสงสว่างคือ พระญาณให้เป็นไป |