เมนู

พระสุตตันตปิฎก



ขุททกนิกาย อปทาน

1

เล่มที่ 9


ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธพระองค์นั้น



ภัททาลิวรรคที่ 42



3. เถราปทาน



ภัททาลิเถราปทานที่ 1 (411)



ว่าด้วยผลแห่งการมุงมณฑปด้วยดอกรัง



[1] พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า
สุเมธะ ผู้เลิศ ประกอบด้วยพระกรุณา เป็นมุนี
ปรารถนาความวิเวก เลิศในโลกได้เสด็จเข้าไปยัง
ป่าหิมพานต์
ครั้นแล้ว พระสุเมธสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้นำ
โลก พระเสริฐกว่าบุรุษ ได้ประทับนั่งขัดสมาธิ
พระพุทธเจ้าผู้นำโลก พระนามว่าสุเมธะผู้สูงสุด
กว่าบุรุษ พระองค์ประทับนั่งขัดสมาธิอยู่ 7 คืน
7 วัน
เราถือหาบเข้าไปกลางป่า ณ ที่นั้นเราได้
เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ข้ามโอฆะได้แล้ว
ไม่มีอาสวะ


1. บาลีเล่มที่ 33

ครั้งนั้น เราจับไม้กวาด กวาดอาศรม
ปักไม้สี่อันทำเป็นมณฑป
เราเอาดอกรังมานุงมณฑป เราเป็นผู้มีจิต
เลื่อมใส โสมนัส ได้ถวายบังคมพระผู้นำโลกแล้ว
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สุเมธะ
ที่ชนทั้งหลายกล่าวกันว่า มีพระปัญญาดังแผ่นดิน
มีพระปัญญาดี ประทับนั่ง ณ ท่ามกลางพระภิกษุ
สงฆ์ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้
เทวดาทั้งปวงทราบว่าพระพุทธเจ้าจะ
เปล่งวาจา จึงพากันมาประชุมด้วยคิดว่า พระพุทธ
เจ้าผู้ประเสริฐสุด มีพระจักษุ จะทรงแสดงพระ
ธรรมเทศนาโดยไม่ต้องสงสัย
พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ผู้สม-
ควรรับเครื่องบูชา ประทับนั่งในหมู่เทวดา ได้ตรัส
พระคาถาดังต่อไปนี้
ผู้ใดทรงมณฑป มีดอกรังเป็นเครื่องมุง
แก่เราตลอด 7 วัน เราพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้ง
หลายจงฟังเรากล่าว
ผู้นั้น เกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์ จักเป็น
ผู้มีผิวพรรณเหมือนทองคำ จักมีโภคทรัพย์
ล้นเหลือ บริโภคกาม
ช้างมาตังคะ 6 หมื่นเชือกประดับด้วย
เครื่องอาภรณ์ทุกชนิด รัดปะคน และพานหน้า