เสลเถราปทานที่ 2 (392)
ว่าด้วยการประพฤติธรรม
[394] ข้าพระองค์เป็นเจ้าของถนนอยู่ในนครหังสวดี ได้ประชุม
บรรดาญาติของข้าพระองค์แล้ว ได้กล่าวดังนี้ว่า
พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลก เป็นบุญเขตอันสูง
สุด พระองค์เป็นผู้สมควรรับเครื่องบูชาของโลกทั้งปวง.
กษัตริย์ก็ดี ชาวนิคมก็ดี พราหมณ์มหาศาลก็ดี ล้วนมี
จิตเลื่อมใสโสมนัส ได้พากันประพฤติปูคธรรม.1
พลช้าง พลม้า พลรถ พลเดินเท้า ล้วนมีจิตเลื่อมใส
โสมนัส ได้พากันประพฤติปูคธรรม.
คนอุคคชาติ (พ่อเป็นกษัตริย์แม่เป็นศูทร) ก็ดี ราชบุตรก็ดี
พ่อค้าก็ดี พราหมณ์ก็ดี ล้วนมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้พากัน
ประพฤติปูคธรรม.
พ่อครัวก็ดี คนรับจ้างก็ดี คนรับใช้อาบน้ำก็ดี ช่างกรอง
ดอกไม้ก็ดี ล้วนมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้พากันประพฤติปูค-
ธรรม.
ช่างย้อมก็ดี ช่างหูกก็ดี ช่างเย็บผ้าก็ดี ช่างกัลบกก็ดี
ล้วนมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้พากันประพฤติปูคธรรม.
ช่างศรก็ดี ช่างกลึงก็ดี ช่างหนังก็ดี ช่างถากก็ดี ล้วน
มีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้พากันประพฤติปูคธรรม.
1. ปูคธรรม คือ ธรรมของแต่ละประชุมชน.