เมนู

ติรังสิยเถราปทานที่ 8 (318)


ว่าด้วยผลแห่งความสรรเสริญ


[320] ปีติเกิดขึ้นแก่เรา เพราะได้เห็นพระพุทธเจ้าพระนามว่า
สิทธัตถะ ผู้องอาจดังพญาราชสีห์ ประทับนั่งอยู่ ณ ระหว่าง
ภูเขา ยังทิศให้สว่างไสว ดังกองไฟที่ภูเขา และเพราะได้
เห็นแสงสว่างของพระอาทิตย์ แสงสว่างของพระจันทร์ และ
แสงสว่างของพระพุทธเจ้า.

ครั้นเราได้เห็นแสงสว่าง 3 ประการ และเห็นพระสาวก
อันอุดมแล้ว จึงทำหนังสัตว์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง แล้วสรรเสริญ
พระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลกว่า พระจันทร์ พระอาทิตย์
และพระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก 3 อย่างนี้แล.

ส่องแสงสว่างในโลก เป็นผู้บรรเทาความมืดของโลก
เรายกข้ออุปมาขึ้นสรรเสริญพระมหามุนี ครั้นเราสรรเสริญ
พระคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว บันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัป.

ในกัปที่ 94 แต่กัปนี้ เราได้สรรเสริญพระพุทธเจ้าใด
ด้วยการสรรเสริญนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการ
สรรเสริญ.

ในกัปที่ 61 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระองค์
หนึ่ง ทรงพระนามว่าญาณวระ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว 7
ประการ มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ

อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระติรังสิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
นาติรังสิยเถราปทาน

นาลิปุปผิยเถราปทานที่ 9 (319)


ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกบัว 9 ดอก


[321] ในกาลนั้น เราเป็นชาวนาอยู่ ณ ที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำสินธุ
ประกอบในแหล่งการงานของผู้อื่น อาศัยอาหารของผู้อื่น เรา
เที่ยวไปตามแม่น้ำสินธุ ได้เห็นพระชินเจ้าพระนามว่าสิท-
ธัตถะ กำลังประทับนั่งเข้าสมาธิอยู่ ดังดอกบัวบานฉะนั้น.

ในกาลนั้น เราจึงเด็ดดอกบัว 7 ดอกที่ขั้วโปรยบูชาที่
พระเศียรของพระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์พระอาทิตย์.

เราเข้าเฝ้าองค์พระสัมพุทธเจ้า ผู้มีพระฉวีวรรณดังทองคำ
มีพระหฤทัยมั่นคงในการอนุกูล ยากที่จะเข้าใกล้ได้ ดังช้าง
มาตังคะตกมัน 3 ครั้ง มีพระปัญญา ทรงอบรมอินทรีย์แล้ว
ได้ประนมกรอัญชลีถวายบังคมแด่พระศาสดา.

ในกัปที่ 94 แต่กัปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้
ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธ-
บูชา.