โพธิอุปัฏฐายกเถราปทานที่ 6 (186)
ว่าด้วยผลแห่งการบำรุงไม้โพธิ์
[188] เราเป็นคนตีตะโพนอยู่ในนครรัมมวดี เป็นผู้ไปประกอบ
การบำรุงไม้โพธิ์อันอุดมเป็นนิตย์.
เราบำรุง ทั้งเวลาเย็น ทั้งเวลาเช้า อันกุศลมูลตักเตือน
แล้ว ไม่เข้าถึงทุคติเลยตลอด 1,800 กัป.
ในกัปที่ 1,500 เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้เป็นอธิบดี
แห่งชน มีพระนามว่าทมถะ มีพละมาก.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระโพธิอุปัฏฐายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบโพธิ์อุปัฏฐายกเถราปทาน
เอกจินติเถราปทานที่ 7 (187)
ว่าด้วยผลแห่งการที่กุศลตักเตือน
[189] ในกาลใด เทวดาจะจุติจากหมู่เทพเพราะสิ้นอายุ ใน
กาลนั้น เทวดาผู้พลอยยินดีย่อมเปล่งเสียงออก 3 ประการว่า
ดูก่อนท่านผู้เจริญ ท่านจากที่นี่จงไปสู่สุคติ จงได้ความ
เป็นมนุษย์ เป็นมนุษย์แล้ว จงได้ศรัทธาชั้นเยี่ยมในสัทธรรม.
ศรัทธาของท่านผู้ตั้งมั่นแล้วนั้นจงมั่นคงเป็นมูลไว้ อย่า
คลอนแคลนในสัทธรรมที่พระอริยเจ้าประกาศดีแล้ว ตลอด
ชีวิต.
ท่านจงกระทำกุศลอันไม่มีความเบียดเบียน ไม่มีอุปธิ
ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ให้มาก.
แต่นั้นท่านก่อสร้างบุญ ทำบุญนั้นด้วยทานให้มาก จง
แนะนำแม้สัตว์อื่น ๆ ให้ตั้งอยู่ในพรหมจรรย์ในสัทธรรม.
สัตว์อื่น ๆ ผู้รู้ตามเป็นจริง พลอยยินดีตามท่าน ผู้เป็น
เทวดาล่วงเทวดา เพราะความอนุเคราะห์นี้ ขอท่านจงกลับมา
บ่อย ๆ นะ.
ในกาลนั้น เราเป็นผู้สลดใจอยู่ในหมู่เทวดาที่มาประชุมกัน
ด้วยคิดว่า เราเป็นอะไรเล่า จุติจากที่นี่แล้วจึงจักไปยังกำเนิด
มนุษย์ได้.
ในกาลนั้น พระสมณะสาวกของพระพุทธเจ้าพระนามว่า
ปทุมุตตระ ผู้อบรมอินทรีย์แล้ว มีนามชื่อว่าสุมนะ รู้ความ
สลดใจของเรา ปรารถนาจะช่วยเหลือเรา.