เมนู

เอกรังสนิยเถราปทานที่ 8 (138)


ว่าด้วยผลแห่งการเลื่อมใสในการฟังธรรม


[140] เราชื่อว่านารทะ แต่ชนทั้งหลายรู้จักเราว่าเกสวะ เรา
แสวงหากุศลและอกุศลอยู่ ได้ไปอยู่สำนักพระพุทธเจ้า.

พระมหามุนีพระนามว่าอัตถทัสสี ทรงมีจิตเมตตา ประ-
กอบด้วยกรุณา พระองค์ผู้มีจักษุ เมื่อทรงปลอบสัตว์ทั้งหลาย
ให้เบาใจ ทรงแสดงธรรมอยู่.

เรายังจิตของตนให้เลื่อมใส ประนมกรอัญชลีเหนือเศียร
เกล้าถวายบังคมพระศาสดาแล้ว บ่ายหน้ากลับไปทางทิศ
ประจิม.

ในกัปที่ 1,700 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช เป็น
ใหญ่ในแผ่นดิน พระนามว่าอมิตตตปนะ มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระเอกรังสนิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบเอกรังสนิยเถราปทาน

138. อรรถกถาเอกปสาทนิยเถราปทาน

1

อปทานของท่านพระเอกปสาทนิยเถระ มีคำเริ่มต้นว่า นารโท
อิติ เม นามํ
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้ว ในพระพุทธเจ้า
พระองค์ก่อน ๆ ในหลายชาติที่ผ่านมาจะสั่งสมแต่กุศลกรรมไว้ ในกาล
แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า อัตถทัสสี ท่านได้บังเกิดขึ้น
ตระกูลพราหมณ์ ปรากฏชื่อว่า เกสวะ บรรลุนิติภาวะแล้ว จึงละเพศ
ฆราวาสออกบวช วันหนึ่งได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา มีใจ
เลื่อมใส ประคองอัญชลี เกิดปีติโสมนัสอย่างเหลือล้นแล้วหลีกไป. เขา
ดำรงชีวิตอยู่จนตลอดอายุ จึงกระทำกาละแล้ว เพราะความโสมนัส
นั้นนั่นแล จึงได้ไปเกิดในเทวโลก ได้เสวยทิพยสมบัติในเทวโลกนั้นแล้ว
ได้ไปบังเกิดในมนุษยโลก เสวยสมบัติในมนุษยโลกนั้นแล้ว ในพุทธุป-
บาทกาลนี้ เขาได้บังเกิดในเรือนอันมีตระกูลแห่งหนึ่ง พอเจริญวัยแล้ว
เลื่อมใสในพระศาสดา ได้บวชแล้ว ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.
ในกาลต่อมา ท่านระลึกถึงกุศลกรรมที่สร้างไว้ของตนได้ เกิด
ความโสมนัส เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วใน
กาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า นารโท อิติ เม นามํ ดังนี้. บรรดา
บทเหล่านั้น บทว่า นารโท มีวิเคราะห์ว่า ชื่อว่า นารทะ เพราะ
ละออง ธุลี มลทินของเขาไม่มี เพราะเขามีสรีระบริสุทธิ์ด้วยอำนาจแห่ง
ชาติ จึงได้รับชื่อจากตระกูลว่า นารทะ เพราะทำการแปลง อักษร
1. บาลีว่า เอกรังสนิยเถราปทาน.