เมนู

สัมมุขาถวิกเถราปทานที่ 5 (125)


ว่าด้วยผลแห่งการชมเชยพระพุทธเจ้า


[127] เมื่อพระวิปัสสีโพธิสัตว์ประสูติ เราได้พยากรณ์นิมิตว่า
จักยังหมู่ชนให้ดับทุกข์ จักเป็นพระพุทธเจ้าในโลก.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใดประสูติ หมื่นโลกธาตุ
ย่อมหวั่นไหว บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็น
ศาสดาผู้มีพระจักษุ ทรงแสดงธรรมอยู่.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใดประสูติ ได้มีแสงสว่าง
อันไพบูลย์ บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นศาสดา
ผู้มีพระจักษุ ทรงแสดงธรรมอยู่.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใดประสูติ แม่น้ำทั้งหลาย
ไม่ไหล บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นศาสดาผู้มี
พระจักษุ ทรงแสดงธรรมอยู่.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใดประสูติ ไฟในอเวจีนรก
ไม่ลุกโพลง บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นศาสดา
ผู้มีพระจักษุ ทรงแสดงธรรมอยู่.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใดประสูติ หมู่นกไม่
สัญจรไป บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นศาสดา
ผู้มีพระจักษุ ทรงแสดงธรรมอยู่.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใดประสูติ ลมย่อมไม่พัด
ฟุ้งไป บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นศาสดา
ผู้มีพระจักษุ ทรงแสดงธรรมอยู่.



เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใดประสูติ แก้วทุกชนิด
ส่องแสงโชติช่วง บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็น
ศาสดาผู้มีพระจักษุ ทรงแสดงธรรมอยู่.

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใดประสูติ ทรงย่างพระ-
บาทก้าวไป ก้าว บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็น
ศาสดาผู้มีพระจักษุ ทรงแสดงธรรมอยู่.

พอพระสัมพุทธเจ้าประสูติแล้วเท่านั้น ก็ทรงเหลียวแลดู
ทิศทั้งปวง ทรงเปล่งอาสภิวาจา นี้เป็นธรรมดาของพระ-
พุทธเจ้าทั้งหลาย.

เรายังหมู่ชนให้เกิดสังเวช ชมเชยพระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้นำของโลก ถวายบังคมพระสัมพุทธเจ้าแล้ว บ่ายหน้ากลับ
ไปทางทิศปราจีน.

ในกัปที่ 91 เเต่กัปนี้ เราชมเชยพระพุทธเจ้าใด ด้วยการ
ชมเชยนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการชมเชย.

ในกัปที่ 90 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่า
สัมมุขาถวิกะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพละมาก.

ในกัปที่ 97 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีนาม
ว่าปฐวีทุนทุภิ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพละมาก.

ในกัปที่ 98 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอม-
กษัตริย์มีนามว่าโอภาสะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มี
พละมาก.

ในกัปที่ 98 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่า
สริตเฉทนะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพละมาก.

ในกัปที่ 86 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่า
อัคคินิพพาปนะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพละมาก.

ในกัปที่ 85 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่า
วาตสมะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพละมาก.

ในกัปที่ 84 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช
มีนามว่าคติปัจเฉทนะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มี
พละมาก.

ในกัปที่ 83 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่า
รัตนปัชชละ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพละมาก.

ในกัปที่ 82 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่า
ปทวิกกมนะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพละมาก.

ในกัปที่ 81 เเต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช
มีนามว่าวิโลกนะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพละมาก.

ในกัปที่ 80 แต่กัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่า
คิริสาระ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.

ทราบว่า ท่านพระสัมมุขาถวิกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบสัมมุขาถวิกเถราปทาน

125. อรรถกถาสัมมุขาวิกเถราปทาน


อปทาของท่านพระสัมมุขาถวิกเถระ อันมีคำเริ่มต้นว่า ชายมาเน
วิปสฺสิมฺหิ
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระ-
องค์ก่อน ๆ ทุก ๆ ภพนั้นจะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพาน
ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า วิปัสสี ท่านได้เกิดใน
ตระกูลพราหมณ์ ขณะที่มีอายุได้เพียง 7 ปีเท่านั้น ก็ได้ศึกษาศิลปะประจำ
ตัวจนสำเร็จแล้ว ดำรงเพศอยู่ในทางฆราวาส เมื่อพระวิปัสสีโพธิสัตว์
อุบัติขึ้นแล้ว ก็ลักษณะของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ จะมีปรากฏอยู่
ในคัมภีร์ไตรเพท เขาได้พยากรณ์ถึงลักษณะ และความเป็นพระพุทธเจ้า
ของพระวิปัสสีโพธิสัตว์ ผู้เป็นประมุขของพระราชา คือเป็นหัวหน้า
คนว่า จะทำใจของหมู่คนให้ดับ (คือนิพพาน). และได้ประกาศถ้อยคำ
ชมเชยไว้มากมาย. ด้วยกุศลกรรมอันนั้น เขาจึงได้เสวยกามาวจรสมบัติ
6 ชั้น และได้เสวยจักรพรรดิสมบัติในหมู่มนุษย์แล้ว ในพุทธุปบาท-
กาลนี้ เขาได้เกิดในเรือนอันมีสกุล บรรลุนิติภาวะแล้ว เกิดมีความ
ศรัทธาจึงได้บวช ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์. ท่านได้ปรากฏชื่อว่า
สัมมุขาถวิกเถระ ดังนี้ ตามชื่อแห่งกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้.