เมนู

พุทธสัญญาเถราปทานที่ 7 (117)


ว่าด้วยผลแห่งประกาศพุทธานุภาพ


[119] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าวิปัสสี ผู้เลิศในโลก
ทรงปลงพระชนมายุสังขารนั้น พื้นแผ่นดินและน้ำก็หวั่นไหว
ฟ้าก็คะนอง แม้ภพของเรา ที่ทั้งสูงใหญ่และกว้างขวางอัน
ประดับตกแต่งดีแล้ว ก็หวั่นไหว ในขณะที่พระพุทธเจ้าทรง
ปลงพระชนมายุ.

เมื่อภพหวั่นไหวแล้ว ความสะดุ้งกลัวก็เกิดขึ้นแก่เราว่า
ความหวั่นไหวเกิดขึ้นเพื่ออะไรหนอ แสงสว่างอันไพบูลย์
ได้มีแล้ว.

ท้าวเวสวัณมา ณ ที่นี้แล้ว ยังเทพบุตรให้หายความเศร้า
โศกว่า สัตว์ไม่มีภัย ท่านทั้งหลายจงมีความตั้งใจเคารพ
เถิด.

และกล่าวว่า โอ พระพุทธเจ้า โอ พระธรรม โอ
พวกเราถึงพร้อมด้วยสัตถุศาสน์หนอ เมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติ
แผ่นดินก็หวั่นไหวดังนี้ ครั้นประกาศพระพุทธานุภาพแล้ว
ให้เทพบุตรบันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัป เราได้ทำกุศลแล้ว.

ในกัปที่ 91 แต่กัปนี้ เราได้สัญญาใดในกาลนั้น ด้วย
สัญญานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งสัญญาใน
พระพุทธเจ้า.

ในกัปที่ 14 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ประเสริฐ
มีนามชื่อว่าสมิตะ มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระพุทธสัญญกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบพุทธสัญญกเถราปทาน

117. อรรถกถาพุทธสัญญกเถราปทาน


อปทานของท่านพระพุทธสัญญกเถระ อันมีคำเริ่มต้นว่า ยทา
วิปสฺสี โลกคฺโค
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระ-
องค์ก่อน ๆ ทุก ๆ ภพนั้นจะสร้างสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระ-
นิพพานเป็นประจำเสมอ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า
วิปัสสี ท่านได้เกิดเป็นเทพบุตรอยู่ในภุมัฏฐกวิมานแห่งหนึ่ง. เวลานั้น
เป็นเวลาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า วิปัสสี ทรงปลงอายุสังขาร.
ครั้งนั้นหมื่นแห่งโลกธาตุทั้งสิ้น พร้อมทั้งสาครและภูเขา ก็เกิดการ
หวั่นไหวเลื่อนลั่น. ในครั้งนั้น ถึงภพของเทพบุตรนั้นก็พลอยหวั่นไหว
ไปด้วย. ในขณะนั้น เทพบุตรองค์นั้นเกิดความสงสัยคิดว่า ปฐพีเกิด
ความหวั่นไหวเพราะอะไรหนอ ก็ทราบว่าพระพุทธเจ้าทรงปลงอายุสังขาร
จึงเกิดความเศร้าโศกโทมนัสเป็นการใหญ่. ครั้งนั้น ท้าวเวสวัณ
มหาราช จึงเสด็จมาปลอบใจเทพบุตรนั้นว่า อย่าคิดไปเลย. ด้วยบุญ