เมนู

ปัญจทีปกเถราปทานที่ 7 (57)


ว่าด้วยผลแห่งการถวายประทีบ


[59] เราชื่อสนิทในพระสัทธรรม ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า
ปทุมุตตระ ผู้ทรงอนุเคราะห์สัตว์ทั้งปวง เป็นผู้มีความเห็นตรง
เราได้ถวายประทีป (ทำการบูชาด้วยประทีป) แวดล้อมไว้ที่
ไม้โพธิ์ ในครั้งนั้นเราเชื่อ จึงได้ทำการบูชาด้วยประทีปที่
ไม้โพธิ์.

เราเข้าถึงกำเนิดใด ๆ คือความเป็นเทวดาหรือมนุษย์ ใน
กำเนิดนั้น ๆ เทวดาทั้งหลายย่อมทรงดวงไฟในอากาศ นี้
เป็นผลแห่งการบูชาด้วยประทีป เราย่อมมองเห็นได้ภายใน
ฝาเรือน ภายในหินล้วน ตลอดล่วงภูเขาในที่ร้อยโยชน์
โดยรอบ.

ด้วยกรรมที่เหลืออยู่นั้น เราเป็นผู้บรรลุความสิ้นอาสวะ
เราทรงกายอันเป็นที่สุดนี้อยู่ในศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้จอมสัตว์สองเท้า.

ในกัปที่ 3,400 ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีพระนามว่า
สตจักขุ มีพระเดชานุภาพมาก มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.

ทราบว่า ท่านพระปัจทีปกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบปัญจทีปกเถราปทาน

57. อรรถกถาปัญจทิปกเถราปทาน


อปทานของท่านพระปัญจทีปกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปทุมุตฺตร-
พุทฺธสฺส
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญสมภารไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพาน ในกาลแห่งพระผู้มี-
พระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ บังเกิดในเรือนมีตระกูล อยู่ครอง
เรือน ฟังธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า ตั้งอยู่ในสัมมาทิฏฐิ มีศรัทธา
เลื่อมใส เห็นมหาชนทำการบูชาอยู่ แม้ตนเองก็แวดล้อมต้นโพธิ์ ตาม
ประทีปบูชา. ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์
ทั้งหลาย เสวยสมบัติมีจักรพรรดิสมบัติเป็นต้นรุ่งเรืองในภพที่ตนเกิดในที่
ทุกสถานนั้นแล อยู่ในวิมานที่เพียง พร้อมด้วยความรุ่งเรืองเป็นต้น ใน
พุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูล อันสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ
แห่งหนึ่ง เจริญวัยแล้ว เกิดศรัทธาบรรพชาไม่นานนักก็ได้เป็นพระ-
อรหันต์ ด้วยวิบากเป็นเครื่องไหลออกแห่งการบูชาด้วยประทีป ท่านจึง
ปรากฏนามว่า ทีปกเถระ ดังนี้.
วันหนึ่ง ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะ
ประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส ดังนี้.