เมนู

กุณฑธานวรรคที่ 4


กุณฑธานเถราปทานที่ 1 (31)


ว่าด้วยผลแห่งการถวายผลกล้วย


[33] เรามีจิตเลื่อมใส ได้บำรุงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ
สุด ตรัสรู้เอง เป็นอัครบุคคล ซึ่งหลีกเร้นอยู่ตลอด 7 วัน เรา
รู้เวลาที่พระองค์เสด็จออกจากที่หลีกเร้น ได้ถือผลกล้วยใหญ่
เข้ารูปถวายพระมหามุนีพระนามว่าปทุมุตตระ.

พระผู้มีพระภาคเจ้าสัพพญญูผู้นำของโลก เป็นมหามุนี
ทรงยังจิตของเราให้เลื่อมใส ทรงรับไว้แล้วเสวย พระสัม-
พุทธเจ้า ผู้ทรงนำหมู่ชั้นยอดเยี่ยมเสวยแล้ว ประทับนั่งบน
อาสนะของพระองค์ ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า

ยักษ์เหล่าใดประชุมกันอยู่ที่ภูเขานี้ และคณะภูตในป่า
ทั้งหมดนั้น จงฟังคำเรา ผู้ใดบำรุงพระพุทธเจ้าผู้เที่ยง ดัง
ไกรสรราชสีห์ เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงพึงเรา
กล่าว

ผู้นั้นจักได้เป็นท้าวเทวราช 11 ครั้ง จักได้เป็นพระเจ้า
จักรพรรดิ 34 ครั้ง ในกัปที่แสน พระศาสดาทรงพระนาม
ว่าโคดมโดยพระโคตร ซึ่งทรงสมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกาก-
ราช จักเสด็จอุบัติในโลก.

ผู้นั้นได้ด่าสมณะทั้งหลายผู้มีศีล หาอาสวะมิได้ จักได้ชื่อ
(อันเหมาะสม ) ด้วยวิบากแห่งกรรมอันลามก.

เขาจักได้เป็นโอรสทายาทในธรรมของพระศาสดาพระองค์
นั้น อันธรรมนิรมิตแล้ว จักเป็นพระสาวกมีชื่อว่ากุณฑธานะ.

เราประกอบเนือง ๆ ซึ่งความสงัด เพ่งฌาน ยินดีใน
ฌาน ยังพระศาสดาให้ทรงโปรดปราน ไม่มีอาสนะอยู่.

พระชินเจ้าอันพระสาวกทั้งหลายแวดล้อม ห้อมล้อมด้วย
ภิกษุสงฆ์ ประทับนั่ง ณ ท่ามกลางสงฆ์แล้ว ทรงให้เรารับ
การแจกสลาก.

เราห่มผ้าเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ถวายบังคมพระศาสดาผู้นำ
ของโลก เมื่อภิกษุทั้งหลายว่ากล่าวอยู่ ได้รับสลากที่หนึ่งไว้
ข้างหน้าของผู้ประเสริฐ.

ด้วยกรรมนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงยังหนุนโลกธาตุให้
หวั่นไหว ประทับนั่ง ณ ท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ทรงตั้งเราไว้ใน
อัครฐานะ.

เรามีความเพียรอันนำซึ่งธุระ นำความเกษมจากโยคะมา
ให้ เราทรงกายเป็นที่สุดไว้ ในศาสนาของพระสัมมาสัม-
พุทธเจ้า.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระกุณฑธานเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบกุณฑธานเถราปทาน

กุณฑธานวรรคที่ 4


31. อรรถกถากุณฑธานเถราปทาน


อปทานของท่านพระกุณฑธานเถระ มีคำเริ่มต้นว่า สตฺตาหํ
ปฏิสลฺสีนํ
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าพระองค์
ก่อน ๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้น ๆ ใน
กาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า ปทุมตตระ ท่านเกิดในเรือนมี
ตระกูลในพระนครหังสวดี เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยนัยที่กล่าวแล้ว
ในหนหลังนั่นแล. ฟังธรรมอยู่ เห็นภิกษุรูปหนึ่ง อันพระศาสดาทรงแต่ง
ตั้งไว้ในตำแหน่งภิกษุผู้เลิศแห่งภิกษุผู้จับสลากก่อน ปรารถนาตำแหน่งนั้น
กระทำบุญสมควรแก่ฐานันดรนั้น ท่องเที่ยวไปแล้ว. ครั้นวันหนึ่งเขาได้
น้อมถวาย เครือกล้วยใหญ่สีเหลืองเหมือนจุณแห่งมโนศิลา แค่พระผู้มี-
พระภาคเจ้าทรงพระนามว่า ปทุมุตตระ ผู้ออกจากนิโรธสมาบัติแล้ว
ประทับนั่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับเครือกล้วยนั้นแล้วเสวย.
ด้วยบุญกรรมนั้น เขาเสวยราชสมบัติทิพย์ในหมู่เทพ 11 ครั้ง ได้
เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 24 ครั้ง เขากระทำบุญบ่อย ๆ อย่างนี้ แล้ว
ท่องเที่ยวอยู่ในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เกิดเป็นภุมมเทวดา ในกาล
ของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปะ.
ก็ธรรมดาพระพุทธเจ้าผู้ทรงอายุยืนทั้งหลาย. ย่อมไม่มีอุโบสถทุก ๆ
ถึงเดือน จริงอย่างนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า วิปัสสี ได้
มีอุโบสถในระหว่าง 6 ปี. ส่วนพระทศพลทรงพระนามว่ากัสสปะ สวด-
ปาติโมกข์ทุก ๆ 6 เดือน. ในการสวดปาติโมกข์นั้น ภิกษุผู้เป็นสหาย