เมนู

เพราะสังโยชนิกทิฏฐิ (ทิฏฐิเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ) เป็น
ทิฏฐิทั่วไปแก่ทิฏฐิทั้งหมด. ฉะนั้น ท่านจึงแสดงความทั่วไปแก่ทิฏฐิทั้งหมด
เพราะสังโยชนิกทิฏฐินั้นเป็นเครื่องประกอบทิฏฐิไว้ทั้งหมด. พึงทราบความนั้น
โดยการครอบงำทิฏฐิ ดังได้กล่าวแล้วในหนหลังนั่นแล.
จบอรรถกถาสัญโญชนิกทิฏฐินิเทศ

อรรถกถามานวินิพันธทิฏฐินิเทศ


ในมานวินิพันธทิฏฐิ (ทิฏฐิอันกางกั้นด้วยมานะ) ทั้งหลายพึงทราบ
วินิจฉัยดั่งต่อไปนี้. การลูบคลำด้วยการถือผิดว่าตาเป็นเรา ชื่อว่า ลูบคลำด้วย
การถือผิด มีมานะเป็นเบื้องต้น. เพราะทิฏฐิไม่ได้สัมปยุตด้วยมานะ. ด้วย
เหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า มานวินิพนฺธา ทิฏฐิกางกั้นด้วยมานะ. ความว่า
ทิฏฐิกางกั้นด้วยมานะมีมานะเป็นมูล.
แม้ในบทนี้ว่า จกฺขุํ มมนฺติ อภินิเวสปรามาโส การลูบคลำ
ด้วยความถือผิดว่า ตาของเราก็มีนัยนี้. อนึ่ง ในบท จกฺขุํ มมนฺตํ นี้
ควรกล่าวว่า มมาติ พึงทราบว่าลงนิคหิตอาคมเป็น มมนฺติ. พึงทราบ
อายตนะภายในมีรูปเป็นต้น ด้วยทิฏฐิอันกางกั้นด้วยมานะว่า เป็นเรา ย่อมไม่
ถืออายตนะภายนอกว่า เป็นเราเว้นกสิณรูป. แม้อายตนะภายนอกก็ย่อมได้
ด้วยทิฏฐิอันกางกั้นด้วยมานะว่า ของเรา เพราะย่อมถือแม้อายตนะภายนอกว่า
ของเรา. ก็เพราะทุกขเวทนาไม่เป็นวัตถุของมานะ เพราะเป็นสิ่งไม่น่าปรารถนา
ฉะนั้น เวทนา 6 และผัสสะ 6 จึงไม่ถือเอาเป็นมูลปัจจัยของเวทนาเหล่านั้น.
แต่สัญญาเป็นต้น พึงทราบว่าท่านไม่ถือเอาในที่นี้ เพราะตัดขาดแล้ว.
จบอรรถกถามานวินิพันธทิฏฐินิเทศ